Sunday, 8 September 2024 | 2 : 34 pm
spot_img
spot_img

4Quarter.co

Sunday, 8 September 2024 | 2 : 34 pm
spot_img
สายสีแดง จัดกิจกรรม CSR ตั้งศูนย์บริการตรวจสุขภาพนอกสถานที่ พร้อมมอบรถเข็นวีลแชร์ 9 คัน ให้แก่ชุมชน   •   เมืองไทยประกันชีวิต พลัสความแคร์ให้คุณ “คนสำคัญ” เปิดตัว “Care Plus” ความคุ้มครองค่ารักษาโรคมะเร็ง และไตวายเรื้อรังโดดเด่นด้วยความคุ้มครองโรคร้ายที่เลือกได้-เบี้ยประกันภัยเข้าถึงได้เ   •   OCEAN LIFE ไทยสมุทร คว้ารางวัลด้านเทคโนโลยีประกันชีวิตระดับเอเชีย Asian Technology Excellence Awards 2024   •   พรูเด็นเชียล ประเทศไทย เชิญร่วมกิจกรรม ‘STEP UP START NOW Challenge’   •   ภาคธุรกิจประกันชีวิตขานรับมาตรการช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตน้ำท่วม   •   วิริยะประกันภัย คว้ารางวัลสุดยอดแบรนด์ทรงพลัง กลุ่มประกันรถยนต์ เป็นปีที่ 3   •   การ์ทเนอร์ เผยอีกไม่ถึงสองปี เทคโนโลยี ‘Everyday AI’ และ ‘Digital Employee Experience (DEX)’ จะถูกเอามาใช้เป็นกระแสหลัก โดย Everyday AI และ DEX นั้นมีความสัมพันธ์ที่เอื้อประโยชน์ต่อกัน และเป็นนวัตกรรมที่สร้างการเปลี่ยนแปลงที่ใกล้ที่สุด   •   สมาคมประกันวินาศภัยไทย จัดเสวนา CEO TALK ครั้งที่ 2 โอกาสและความท้าทายกับอนาคตรถไฟฟ้าในไทย   •   สำนักงาน คปภ. ส่งสัญญาณบรรดาเจ้าหนี้ “สินมั่นคงประกันภัย” ที่ถูกสั่งปิดกิจการ ดีเดย์…! วันที่ 9 เดือน 9 ใช้สิทธิยื่นคำทวงหนี้ต่อผู้ชำระบัญชีผ่านระบบออนไลน์ 24 ชั่วโมง – หมดเขตยื่นคำทวงหนี้ 7 พฤศจิกายน 2567   •   กรุงเทพประกันภัย ห่วงใยวัยเรียนนำพนักงานจิตอาสากว่า 30 คน ร่วมพัฒนาโรงเรียนวัดเขาพระ จ.สุพรรณบุรี   •   ‘ไทยประกันชีวิต’ ร่วมกับ ‘มูลนิธิหนึ่งคนให้ หลายคนรับ’ ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในภาคเหนือ   •   BJC ประสบความสำเร็จในออกหุ้นกู้ด้วยยอดจองเกินเป้ากว่า 4 เท่า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน   •   ช้อปผ่านบัตร Krungsri Boarding Card หรือบัตรกรุงศรี เดบิต ที่ Lazada รับโค้ดลด 150 บาทต่อเดือน   •   เคทีซี จัดกิจกรรม “KTC on Tour : ชิล ชม ชิม @ พัทยา”   •   ศุภาลัย (SPALI) อัดแน่นคุณภาพ 100 คะแนนเต็ม ต่อเนื่อง 12 ปีพิชิตรางวัล Investors’ Choice Award ประจำปี 2567   •   เมืองไทยประกันชีวิต มอบเงินพิเศษสนับสนุนนักกีฬาไทยคว้าชัยโอลิมปิก 2024   •   “คปภ. – ภาคธุรกิจประกันภัย” หลอมรวมพลังความคิดขับเคลื่อนระบบประกันภัยเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านเวทีการประชุมผู้บริหารระดับสูงด้านการประกันภัย (OIC Meets CEO 2024) ครั้งที่ 2/2567   •   TOA ตอกย้ำผู้นำสีรักษ์โลก เปิดตัวนวัตกรรม TOA Shield Expert สีน้ำ 2in1 สีทับหน้ารวมรองพื้น รุกช่องทางขายโมเดิร์นเทรด พร้อมส่งมอบสู่เจ้าของบ้านทั่วประเทศ   •   กรุงเทพประกันภัย ร่วมส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่น้องๆ บ้านราชาวดี ในโครงการ คปภ. และภาคธุรกิจประกันภัย จับมือร่วมใจสานฝันน้อง   •   BAM คว้ารางวัลเชิดชูเกียรติ จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยสะท้อนความสำเร็จในการส่งเสริมความรู้ด้านความยั่งยืนแก่บุคลากร “โครงการ ESG DNA”   •   วิริยะประกันภัย ร่วมกับคปภ. ส่งมอบความสุข เพื่อน้องบ้านราชาวดี   •   สมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดอบรมโครงการพัฒนาผู้บริหารธุรกิจประกันวินาศภัย (IMDP) รุ่นที่ 28   •   บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน จับมือ เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป เอาใจสายกินกับโปร “CRG X T1 Sunday อิ่ม เกิน คุ้ม ”รับเครดิตเงินคืนสุดคุ้ม ทุกวันอาทิตย์   •   ธนชาตประกันภัย มุ่งพัฒนาศักยภาพยกระดับศูนย์บริการลูกค้า เบอร์ใหม่! Contact Center โทร.1519 บริการครบจบที่เบอร์เดียว   •   เอไอเอ ประเทศไทย จับมือ แมกซ์ โซลูชัน มอบประกันอุบัติเหตุฟรี คุ้มครองสูงสุด 100,000 บาท พร้อมจัดเต็มสิทธิประโยชน์มากมาย สำหรับสมาชิกแอปพลิเคชัน Max Me และ PT Max Card   •   พรูเด็นเชียล ประเทศไทย คว้า 3 รางวัลใหญ่ จากเวที HR Excellence Awards 2024   •   กระทรวง พม. และการเคหะแห่งชาติ ปล่อย “คาราวานช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคเหนือ” 5 จังหวัด   •   ฟิลลิปประกันชีวิต เร่งออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าน้ำท่วม ยืดเวลาชำระเบี้ย 91 วัน   •   orbix ลุยตลาดคริปโตด้วย orbix Reward Program ดันฐานลูกค้าเติบโตต่อเนื่อง ตอกย้ำแนวคิด “สู่ประสบการณ์ใหม่ของการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล”   •   เตรียมพบกับงานใหญ่แห่งปี! ยกทัพจัดเต็มทุกฟังก์ชันด้านอุตสาหกรรมงานไม้และเฟอร์นิเจอร์ รวบรวมมาไว้ที่เดียวในงาน Thailand International Woodworking & Furniture Exhibition 2024 :TIWF 2024
spot_img

สกสว. เปิดเวทีชี้แจงแนวทางการจัดทำงบประมาณด้าน ววน. ปี 2569 มุ่งขับเคลื่อนงานวิจัยและนวัตกรรม สู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน

สกสว. เปิดการประชุมชี้แจงแนวทางการจัดทำงบประมาณด้าน ววน. ปี 2569 ขับเคลื่อนงานวิจัย นวัตกรรม และเทคโนโลยี สู่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน พร้อมยกระดับศักยภาพประเทศไทยสู่สากล

ศาสตราจารย์ เกียรติคุณ ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ประธานกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กสว.) เปิดเผยว่า การยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ พัฒนาเศรษฐกิจ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในยุคปัจจุบัน จำเป็นต้องมีการลงทุนด้านการวิจัยและนวัตกรรม การพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของโลก โดยเป้าหมายสำคัญที่สุดของ คณะกรรมการ กสว. คือ ทำให้สังคมเชื่อถือระบบวิจัย นักวิจัยเชื่อมั่นระบบขับเคลื่อนการวิจัย เกิดประโยชน์จากงานวิจัย กองทุน ววน. ใช้ทรัพยากรราว 1.9 หมื่นล้านบาท/ปี  

โดยใน 5 ปี นี้ กสว. ได้มองเห็นภาพการบริหารจัดการ การดูแลทิศทางงบประมาณของประเทศในภาพรวม ขับเคลื่อนอย่างมีทิศทางตอบโจทย์การพัฒนาประเทศ มุ่งประโยชน์ทั้งในระยะสั้น กลาง และยาว ผสานการสร้างประโยชน์และเสริมสร้างความเข้มแข็ง มีความโปร่งใส อยู่บนพื้นฐานสร้างความเสมอภาค มุ่งให้ทุกภาคส่วนที่เป็นการลงทุนของระบบ ววน. ทั้งประชาชน ประเทศ อุตสาหกรรมได้ประโยชน์ และเห็นความสำเร็จของโครงการสำคัญของประเทศ เช่น การแก้ปัญหาสภาพแวดล้อม การสร้างความมั่นคงทางสุขภาพ การพัฒนาแหล่งรายได้ใหม่โดยการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การใช้ AI เพื่อเกษตรแม่นยำ การแพทย์ และยานยนต์สมัยใหม่ ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม อาทิ การจัดการฝุ่น PM2.5 การจัดการน้ำ ตลอดจนให้ความสำคัญกับการพัฒนากำลังคนที่เป็นความต้องการของอุตสาหกรรมที่มุ่งเน้น เช่น Semiconductor, AI และ EV และมุ่งสร้างการยอมรับให้กับ กองทุน ววน. ให้เป็นที่ประจักษ์ เข้าถึงและจับต้องได้ ด้วยการมีกลยุทธ์การสื่อสารที่ชัดเจน มีการสื่อสารแบบสองทางที่พร้อมตอบคำถามสำคัญ เป็นต้น

รองศาสตราจารย์ ดร.ปัทมาวดี โพชนุกูล ผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) กล่าวว่า การประชุมชี้แจงเป้าหมายการสนับสนุนงบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และแนวทางการจัดทำคำของบประมาณของหน่วยงานในระบบ ววน. ปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 นี้ เพื่อให้หน่วยงานในระบบ ววน. มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบ แผน แนวทางการจัดสรรงบประมาณ และมีข้อมูลพร้อมสำหรับเตรียมการจัดทำคำของบประมาณเพื่อสนับสนุนงานมูลฐานของหน่วยงาน

โดย กองทุน ววน. ได้เป็นตัวกลางในการขับเคลื่อนระบบ ววน. ของประเทศที่สอดคล้องนโยบายของภาครัฐในการสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้เกิดความสมดุลและยั่งยืนใน 4 ยุทธศาสตร์ ตามแผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ พ.ศ. 2566-2570 อันประกอบด้วย

1. การพัฒนาเศรษฐกิจไทยด้วยเศรษฐกิจสร้างคุณค่าและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ให้มีความสามารถในการแข่งขัน และพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน ได้แก่ การพัฒนาและผลิตผลิตภัณฑ์การแพทย์ขั้นสูง (Advanced Therapy Medicinal Products; ATMPs) การพัฒนาและยกระดับการท่องเที่ยวโดยใช้แนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่เน้นคุณค่า สร้างความยั่งยืน และเพิ่มรายได้ของประเทศ พัฒนาและส่งเสริมให้ประเทศเพิ่มธุรกิจฐานนวัตกรรม (Innovation-Driven Enterprises; IDEs) การเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกชั้นนำของโลกด้าน Functional Ingredients, Functional Food และ Novel Food การเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของอาเซียน

2. การยกระดับสังคมและสิ่งแวดล้อมให้มีการพัฒนาอย่างยั่งยืน เช่น การเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก เพื่อการพึ่งพาตนเองและกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น ประเทศไทยสามารถยกระดับการเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ การพัฒนาผู้สูงอายุในชนบทและเมืองให้มีศักยภาพในการพึ่งพาตนเอง มีคุณค่าและสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สังคม

3. การพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัยและนวัตกรรมระดับขั้นแนวหน้าที่ก้าวหน้าล้ำยุค เพื่อสร้างโอกาสใหม่และความพร้อมของประเทศในอนาคต ได้แก่ การพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบโลกและอวกาศ (Earth Space Technology) โดยสามารถสร้างดาวเทียมที่วิจัยและพัฒนาโดยคนไทยและส่งไปโคจรรอบดวงจันทร์ และ

4. การพัฒนากำลังคน สถาบันอุดมศึกษา และสถาบันวิจัยให้เป็นฐานการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศแบบก้าวกระโดดและอย่างยั่งยืน ได้แก่ ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของกำลังคนระดับสูง (Hub of Talent) และศูนย์กลางการเรียนรู้ (Hub of Knowledge) ของอาเซียน

“ทั้งนี้ สกสว. ตั้งเป้าที่จะขับเคลื่อนให้เกิดระบบนิเวศการวิจัยและนวัตกรรมที่เข้มแข็ง ส่งเสริมการผลักดันให้เกิดการนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยคาดการณ์ผลจากการลงทุนงบประมาณด้านการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมของประเทศเฉลี่ย 5 เท่าของงบประมาณลงทุน

นอกจากการนี้ สกสว. ยังได้เตรียมดำเนินการที่สอดคล้องกับโจทย์และความต้องการของประเทศ ใน 7 เรื่องสำคัญ คือ 1.การศึกษาแนวทางในการจัดตั้งกองทุนร่วมลงทุนในสตาร์ทอัพ ผ่านการร่วมทุนกับนักลงทุนมืออาชีพ เพื่อสร้างผู้ประกอบการใหม่ที่มีสินค้าและบริการจากงานวิจัย 2.การพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจร่วมกับสภาพัฒน์ด้วยแนวทางเอกชนนำ รัฐสนับสนุน เพื่อให้เกิดการลงทุนและยกระดับกำลังคนให้มีทักษะสูง 3.การแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 แบบครบวงจร นำร่องในพื้นที่ภาคเหนือ 4.การนำงานวิจัยมายกระดับภาคการเกษตร เพื่อลดต้นทุนและสร้างรายได้สู่การเกษตรมูลค่าสูง 5. แผนการลงทุนด้าน ววน. ในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และดิจิทัล AI 6. การเปิดใช้งาน open data ของกองทุน ววน. ให้กับสาธารณะ เพื่อใช้ในการหาข้อมูลงานวิจัย เทคโนโลยีที่พร้อมใช้ และโครงการพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์ที่พร้อมให้บริการในแต่ละพื้นที่ และ 7. การเร่งวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีสีเขียว เทคโนโลยีกักเก็บก๊าซเรือนกระจกรวมถึงการนำไปใช้เพื่อสนับสนุนเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศ รองศาสตราจารย์ ดร. ปัทมาวดี กล่าวปิดท้าย

spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img