ไทยประกันชีวิต โชว์ฟอร์มแกร่ง 9 เดือนแรก 2568 VONB โต 10.1% แตะ 5,701 ล้าน กำไรสุทธิ 9,359 ล้าน หนุนธุรกิจโตต่อเนื่อง   •   VICTAM Asia 2026 เปิดเวทีเทคโนโลยีอาหารสัตว์แห่งปี! ดึงยักษ์ใหญ่จากยุโรป–เอเชีย ร่วมโชว์โซลูชัน   •   นายกสมาคมประกันชีวิตไทย ร่วมกล่าวสุนทรพจน์ในงาน Asian Actuarial Conference 2025 (AAC 2025)   •   วิริยะประกันภัย มอบทุนการศึกษากว่า 200 ทุน หนุนโอกาสสร้างอนาคตเด็กไทย ในพื้นที่ภาคตะวันออก   •   OCEAN LIFE ไทยสมุทร x Darlie Thailand ร่วมสร้างคอนเทนต์สะเทือนวงการ ส่งต่อแนวคิด “รักตัวเอง” ผ่านสุขภาพดีและรอยยิ้มที่มั่นใจ   •   กสิกรไทย ประกาศผล AFTERKLASS AI Hackathon: Youth for Good แคมป์นวัตกรรมสร้างสรรค์ไอเดียและแผนธุรกิจด้วยพลัง AI เพื่อสังคมที่ดีกว่า   •   กรุงเทพประกันชีวิต เปิดผลดำเนินงาน Q3/68 กำไรสุทธิ 2,306 ล้าน เบี้ยปีแรกโตแรง 78%   •   SAM เปิดบทบาทใหม่ “SAM Social AMC” ขานรับนโยบายเร่งด่วนภาครัฐ “ปิดหนี้ไว ไปต่อได้” ช่วยลูกหนี้ต่ำแสน ชูธงแก้หนี้ผ่อนปรน โปร่งใส เป็นธรรม เพื่อคนไทยเริ่มต้นใหม่ทางการเงิน พลิกฟื้นเศรษฐกิจยั่งยืน   •   BAM โชว์กำไร 9 เดือน ปี ’68 พุ่ง 57% แตะ 1,695 ล้านบาท ปักหมุดกลยุทธ์ “Partnership Model” ดันผลเรียกเก็บปีนี้ทะลุเป้า 17,800 ล้านบาท   •   “สาระ ล่ำซำ” คว้ารางวัล PMAT HR Award 2025 ตอกย้ำวิสัยทัศน์การบริหารทรัพยากรมนุษย์ สู่การเติบโตอย่างยั่งยืนของคน องค์กร และสังคม   •   KBank เสริมแกร่ง SC Asset ปักธงพัฒนาคลังสินค้า หนุน 2,500 ล้านบาท ปั้นโครงสร้างพื้นฐานโลจิสติกส์รวมกว่า 180,000 ตร.ม.   •   TOA ยืนหนึ่งผู้นำนวัตกรรมสี – แผ่นยิปซัม คว้า ‘ฉลากเขียว’ ตอกย้ำองค์กรสีเขียว เดินหน้าสู่ความยั่งยืน   •   BAM เสริมพลังทีมแพทย์ชายแดนใต้ สนับสนุนอุปกรณ์การแพทย์ให้ รพ.กระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา มูลค่า 400,000 บาท   •   ทีเส็บ ผนึกกำลัง ททท.–การบินไทย–DITP เปิดตัวแคมเปญ “SPICE UP THAI FEST”ยกระดับเทศกาลไทยสู่สายตานานาชาติผ่านเครือข่ายร้านอาหารไทยทั่วโลก   •   ออมสิน แสดงความยินดีแก่ ผู้ว่าแบงก์ชาติ “วิทัย รัตนากร” ในโอกาสรับรางวัล PMAT HR Award 2025
spot_img
spot_img

4Quarter.co

spot_img
ไทยประกันชีวิต โชว์ฟอร์มแกร่ง 9 เดือนแรก 2568 VONB โต 10.1% แตะ 5,701 ล้าน กำไรสุทธิ 9,359 ล้าน หนุนธุรกิจโตต่อเนื่อง   •   VICTAM Asia 2026 เปิดเวทีเทคโนโลยีอาหารสัตว์แห่งปี! ดึงยักษ์ใหญ่จากยุโรป–เอเชีย ร่วมโชว์โซลูชัน   •   นายกสมาคมประกันชีวิตไทย ร่วมกล่าวสุนทรพจน์ในงาน Asian Actuarial Conference 2025 (AAC 2025)   •   วิริยะประกันภัย มอบทุนการศึกษากว่า 200 ทุน หนุนโอกาสสร้างอนาคตเด็กไทย ในพื้นที่ภาคตะวันออก   •   OCEAN LIFE ไทยสมุทร x Darlie Thailand ร่วมสร้างคอนเทนต์สะเทือนวงการ ส่งต่อแนวคิด “รักตัวเอง” ผ่านสุขภาพดีและรอยยิ้มที่มั่นใจ   •   กสิกรไทย ประกาศผล AFTERKLASS AI Hackathon: Youth for Good แคมป์นวัตกรรมสร้างสรรค์ไอเดียและแผนธุรกิจด้วยพลัง AI เพื่อสังคมที่ดีกว่า   •   กรุงเทพประกันชีวิต เปิดผลดำเนินงาน Q3/68 กำไรสุทธิ 2,306 ล้าน เบี้ยปีแรกโตแรง 78%   •   SAM เปิดบทบาทใหม่ “SAM Social AMC” ขานรับนโยบายเร่งด่วนภาครัฐ “ปิดหนี้ไว ไปต่อได้” ช่วยลูกหนี้ต่ำแสน ชูธงแก้หนี้ผ่อนปรน โปร่งใส เป็นธรรม เพื่อคนไทยเริ่มต้นใหม่ทางการเงิน พลิกฟื้นเศรษฐกิจยั่งยืน   •   BAM โชว์กำไร 9 เดือน ปี ’68 พุ่ง 57% แตะ 1,695 ล้านบาท ปักหมุดกลยุทธ์ “Partnership Model” ดันผลเรียกเก็บปีนี้ทะลุเป้า 17,800 ล้านบาท   •   “สาระ ล่ำซำ” คว้ารางวัล PMAT HR Award 2025 ตอกย้ำวิสัยทัศน์การบริหารทรัพยากรมนุษย์ สู่การเติบโตอย่างยั่งยืนของคน องค์กร และสังคม   •   KBank เสริมแกร่ง SC Asset ปักธงพัฒนาคลังสินค้า หนุน 2,500 ล้านบาท ปั้นโครงสร้างพื้นฐานโลจิสติกส์รวมกว่า 180,000 ตร.ม.   •   TOA ยืนหนึ่งผู้นำนวัตกรรมสี – แผ่นยิปซัม คว้า ‘ฉลากเขียว’ ตอกย้ำองค์กรสีเขียว เดินหน้าสู่ความยั่งยืน   •   BAM เสริมพลังทีมแพทย์ชายแดนใต้ สนับสนุนอุปกรณ์การแพทย์ให้ รพ.กระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา มูลค่า 400,000 บาท   •   ทีเส็บ ผนึกกำลัง ททท.–การบินไทย–DITP เปิดตัวแคมเปญ “SPICE UP THAI FEST”ยกระดับเทศกาลไทยสู่สายตานานาชาติผ่านเครือข่ายร้านอาหารไทยทั่วโลก   •   ออมสิน แสดงความยินดีแก่ ผู้ว่าแบงก์ชาติ “วิทัย รัตนากร” ในโอกาสรับรางวัล PMAT HR Award 2025
spot_img

เดอะวิสดอมกสิกรไทย จับสัญญาณความผันผวนเศรษฐกิจโลก 2025 จากมาตรการภาษีและสงครามการค้าขยายแนวรบ ในยุค “ทรัมป์ 2.0”

เดอะวิสดอมกสิกรไทย จัดงานสัมมนาใหญ่ด้านการเงิน “Wealth Forum Thailand 2025” ในหัวข้อ “The New Frontiers of Investment Opportunity” ผ่านมุมมองของผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ การเงินและการลงทุน นำโดย K Wealth ร่วมด้วยพันธมิตรระดับโลก J.P. Morgan Asset Management และ Lombard Odier ระบุเศรษฐกิจโลก ปี 2025 เตรียมรับแรงกระแทกจากนโยบายยุคทรัมป์ 2.0 โดยเฉพาะมาตรการกำแพงภาษีที่พุ่งเป้าที่จีน มหาอำนาจเศรษฐกิจโลก สัญญาณสงครามการค้าขยายแนวรบ แนะกระจายความเสี่ยง ขยายพอร์ตลงทุนให้น้ำหนักหุ้นโลก โดยเฉพาะหุ้นสหรัฐฯ และหุ้นญี่ปุ่น ที่มีสัญญาณที่ดี พร้อมเสริมแกร่งด้วยกองทุนตราสารหนี้

ดร.พิพัฒน์พงศ์ โปษยานนท์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า “หลังจากพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม 2025 คาดว่าจะเห็นนโยบายเร่งด่วนใน 100 วันแรก ของโดนัล ทรัมป์ เช่น นโยบายการลดเงินสนับสนุนทางทหารกับชาติพันธมิตร นโยบายกีดกันผู้อพยพเข้าเมือง นโยบายด้านพลังงาน รวมถึงการลดภาษี ซึ่งโดยรวมแล้วจะสร้างแรงกดดันเงินเฟ้อให้กับเศรษฐกิจสหรัฐฯ จากต้นทุนการนำเข้าที่เพิ่มขึ้น ค่าจ้างแรงงานที่สูงขึ้น รวมถึงการขาดดุลการคลังที่สูงขึ้น ซึ่งแนวโน้มเงินเฟ้อที่สูงขึ้น จะทำให้ภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะดีขึ้นตามนโยบายของทรัมป์ยังมีความไม่แน่นอนอยู่“

สงครามการค้าจะสร้างความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจในฝั่งเอเชียรวมถึงไทยอย่างมากจากการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ การตอบโต้ทางการค้าไปมา การปรับเปลี่ยนห่วงโซ่อุปทานโลก ซึ่งจะส่งผลกระทบทางลบจากโอกาสทางการค้าที่หายไป นอกจากนี้ การปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนอีก 60% จะส่งผลกระทบทางอ้อมให้ประเทศต่างๆ ต้องเผชิญการไหลบ่าเข้ามาของสินค้านำเข้าจากจีนที่ได้เปรียบด้านราคา ซึ่งจะส่งผลกระทบอีกต่อหนึ่งต่อภาคการผลิตในแต่ละประเทศ”

สำหรับเศรษฐกิจไทย นอกจากจะเผชิญความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกแล้ว สงครามการค้าจะเป็นความเสี่ยงสำคัญต่อเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า จากการที่สหรัฐฯ ขาดดุลการค้ากับไทยเป็นอันดับที่ 12 ของคู่ค่าทั้งหมดของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นความเสี่ยงต่อสินค้าส่งออกไทยที่จะเจอภาษีสินค้านำเข้าไปยังสหรัฐฯ ที่สูงขึ้น หรือไทยอาจจะต้องเปิดตลาดนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ มากขึ้น ซึ่งโดยรวมแล้วเป็นปัจจัยลบต่อทิศทางดุลการค้าของไทยในระยะข้างหน้าให้เกินดุลได้ลดลงนโยบายยุค “ทรัมป์ 2.0” กระทบเศรษฐกิจ การค้าโลก และเงินเฟ้อ

มุมมองจาก Ms. Jin Yuejue Managing Director, Asia Head of the Investment Specialist Multi-Asset Solution group จาก J.P. Morgan Asset Management เห็นว่า “เศรษฐกิจโลกสดใสขึ้น แต่ยังมีหมอกปกคลุม” ด้วยความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่จาก “นโยบายทรัมป์ 2.0” หากทำให้เงินเฟ้อสหรัฐกลับมาสูงขึ้น โอกาสที่เฟดลดดอกเบี้ยในปีหน้า จำนวนครั้งลดลงจากที่ตลาดคาด ทำให้ราคาสินทรัพย์ผันผวนได้

Mr. Homin Lee, Senior Macro Strategist จาก Lombard Odier มองว่า การกลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์ ท่ามกลางความผันผวนที่เพิ่มขึ้น แต่ในความเสี่ยงต่างๆ ยังมีโอกาส ใช้เป็นจังหวะในการลงทุนได้เช่นกันโดยทั้งสองเห็นสอดคล้องกันว่า นโยบายของโดนัล ทรัมป์ ในหลายนโยบายอาจจะไม่ง่ายนักต่อการดำเนินการเนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อสหรัฐฯ ในหลายด้าน โดยเห็นว่า มีนโยบายที่อาจจะส่งผลต่อเศรษฐกิจและการค้าโลก รวมถึงเงินเฟ้อ ได้แก่ •นโยบายกีดกันแรงงานอพยพ นโยบายนี้อาจนำมาสู่การขาดแคลนแรงงงาน ส่งผลต่อค่าแรงที่จะต้องจ่ายเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งคาดการณ์ว่า ทรัมป์จะเริ่มดำเนินการในต้นปี 2568 •จัดเก็บภาษีนำเข้าอัตราใหม่ เป็นนโยบายที่คาดว่า ทรัมป์จะเร่งให้เกิดขึ้นเร็วที่สุด ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ทรัมป์เสนอให้เรียกเก็บภาษีใหม่ในอัตรา 10-20% สำหรับสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ โดยประเทศคู่ค้าที่เป็นเป้าหมายสำคัญของทรัมป์คือ จีน ที่ทรัมป์ประกาศจะออกคำสั่งขึ้นภาษีนำเข้าจากจีน 10%เม็กซิโกและแคนาดาเป็น 25% •นโยบายการคลัง ลดอัตราภาษีนิติบุคคลลงเหลือ 15% สำหรับบริษัทที่ผลิตสินค้าในสหรัฐฯ ซึ่งลดลงอย่างมากจากอัตราปัจจุบันที่ 21%แนะเพิ่มน้ำหนักพอร์ตในหุ้นโลก สหรัฐฯ และญี่ปุ่น ยังเป็นดาวรุ่ง Mr. Homin Lee ให้คำแนะนำถึงหุ้นสหรัฐฯ และญี่ปุ่น ที่ยังส่งสัญญานบวกต่อเนื่อง ในขณะที่หุ้นยุโรปยังคงทรงตัว ตราสารหนี้ระดับลงทุน Investment Grade หรือหุ้นกู้ High Yield ที่มี Credit Rating ที่ดี นอกจากนี้การลงทุนทางเลือก (Alternative Investment) เช่น ทองคำ และอสังหาริมทรัพย์ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เป็นต้น

เป็นโอกาสการลงทุนที่ดีในช่วงเวลานี้ Ms. Jin Yuejue แนะว่า “เน้นกระจายสินทรัพย์ลงทุนทั้งหุ้นและตราสารหนี้ ปรับเพิ่มน้ำหนักหุ้นโลก เช่น หุ้นสหรัฐ ขนาดกลางและเล็ก กับหุ้นญี่ปุ่น และลดน้ำหนักหุ้นยุโรป พร้อมกับเพิ่มน้ำหนักในตราสารหนี้ เน้นที่มีคุณภาพสูง รวมถึงหุ้นกู้เอกชน”

เสริมแกร่งพอร์ต “โตกระจาย ไม่โตกระจุก” กระจายในหุ้นและตราสารหนี้ ทั้งไทยและต่างประเทศ นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ. หลักทรัพย์กสิกรไทย กล่าวว่า “ภาพรวมการลงทุนในปีหน้าของสหรัฐฯ จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติสมดุล ซึ่งตราสารทุน หรือตลาดหุ้น ของทั้งฝั่งสหรัฐฯ ยังมีโอกาสที่จะไปต่อได้ มีการปรับตัวขึ้นของหุ้นสหรัฐอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องกลับมามองที่ Valuation มากขึ้น เพราะตราบใดที่ความผันผวนยังคงอยู่ สิ่งที่จะช่วยให้เรารอดได้ คือ ความเหมาะสมของหุ้น ทั้งในตัวราคา และเป็นหุ้นที่มีคุณภาพ เติบโตได้ มีผลประกอบการที่ดี”

นายวจนะ วงศ์ศุภสวัสดิ์, CFA, รองกรรมการผู้จัดการ บลจ. กสิกรไทย กล่าวว่า “กองทุนรวมตราสารหนี้จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ให้ผลตอบแทนที่ดี และบริหารความเสี่ยงได้เป็นอย่างดี รวมถึงยืดอายุการถือครองตราสารหนี้เพิ่มขึ้นเป็น 12 เดือน เพื่อสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอในระยะยาว และลดความผันผวนของพอร์ตด้วย”

ด้าน นายวีระพล บดีรัฐ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า “การจัดสรรพอร์ตการลงทุน แนะนำแบ่งเป็น พอร์ตหลัก (Core Portfolio) ลงทุนระยะยาว แบ่งสัดส่วนไว้ 70% ลงทุนในหุ้นทั่วโลก เช่น หุ้นสหรัฐฯ และหุ้นญี่ปุ่น หรือกองทุนผสม K-WealthPLUS Series โดยอีก 30% เป็นพอร์ตเสริม (Satellite Portfolio) เช่น กองทุน K-FIXEDPLUS K WEALTH แนะนำกองทุนที่น่าสนใจ 1) 70% Core Portfolio ประเภท Multi Asset เช่น กองทุน K-WealthPLUS Series: K-WPBALANCED, K-WPSPEEDUP และ K-WPULTIMATE 2) 30% Satellite Portfolio ประเภท Fixed Income เช่น กองทุน K-GINCOME-A(A), *K-FIXEDPLUS-A และ K-FIXED-A และประเภท Equity เช่น กองทุน K-VIETNAM, K-GINFRA-A(D) K-HIT-A(A), K-GHEALTH, K-USA-A(A) และ K-GOLD-A-(A)

spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img

ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้ใช้ "คุกกี้” เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งาน โดยใช้คุกกี้เพื่อวิเคราะห์และปรับปรุงเนื้อหาให้ตรงกับความสนใจของท่าน
รายละเอียดเพิ่มเติม: นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy) นโยบายการใช้คุกกี้ (Cookies Policy), ตั้งค่าคุกกี้ (Cookies Settings)

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ วิเคราะห์การเข้าชม และนำเสนอโฆษณาที่ตรงกับความสนใจของท่าน สามารถตั้งค่าความยินยอมโดย เปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Accept All
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่จำเป็นคือสิ่งที่สำคัญสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ ทำให้ท่านสามารถใช้งานและเรียกดูเว็บไซต์ได้ตามปกติ ท่านไม่สามารถปิดการใช้งานคุกกี้เหล่านี้ในระบบของเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้การทำงานเพื่อจดจำการตั้งค่าผู้ใช้

    คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้เว็บไซต์สามารถจดจำตัวเลือกหรือการตั้งค่าต่างๆ ที่ท่านได้เลือกไว้ เช่น ภาษา ภูมิภาค หรือขนาดตัวอักษร เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้นและเป็นส่วนตัวมากขึ้น ทำให้ท่านไม่ต้องตั้งค่าใหม่ทุกครั้งที่เข้าใช้งานเว็บไซต์
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประสิทธิภาพ

    คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้เราสามารถรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เช่น จำนวนผู้เข้าชม แหล่งที่มา หน้าเว็บที่ได้รับความนิยม และพฤติกรรมการท่องเว็บ เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์สำหรับปรับปรุงประสิทธิภาพและประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ดียิ่งขึ้น โดยข้อมูลทั้งหมดที่รวบรวมนั้นจะไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการโฆษณา

    คุกกี้ประเภทนี้ถูกตั้งค่าโดยพันธมิตรด้านโฆษณา เพื่อสร้างโปรไฟล์เกี่ยวกับความสนใจของท่านจากการเข้าชมเว็บไซต์ต่างๆ สำหรับแสดงโฆษณาที่ตรงกับความสนใจของท่านให้มากที่สุดทั้งบนเว็บไซต์ของเราและเว็บไซต์อื่นๆ หากไม่ยินยอม โฆษณาที่แสดงผลจะเป็นแบบทั่วไปซึ่งอาจไม่ตรงกับความสนใจของท่าน
    รายละเอียดคุกกี้

Save