Friday, 19 April 2024 | 10 : 39 pm

4Quarter.co

Friday, 19 April 2024 | 10 : 39 pm
คปภ. เร่งให้ความช่วยเหลือด้านประกันภัย กรณีรถยนต์กระบะเฉี่ยวชนเสาไฟฟ้า เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย บาดเจ็บ 1 ราย ที่จังหวัดนครพนม   •   วิริยะประกันภัย ร่วมรณรงค์ “ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน” ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 จังหวัดนครราชสีมา   •   ออมสิน เปิดให้กู้โครงการ “สินเชื่อออมสินรีไฟแนนซ์เพื่อสังคม” ตั้งเป้าแก้หนี้ครัวเรือนตามนโยบายรัฐ ลดดอกเบี้ย 4 กลุ่มสินเชื่อ ช่วยลูกหนี้บัตรเครดิต ลูกหนี้ P-Loan ลูกหนี้นาโนไฟแนนซ์ ลูกหนี้สินเชื่อบ้าน   •   เอสซีบี เอกซ์ ประกาศผลกำไรสุทธิประจำไตรมาส 1 ของปี 2567 จำนวน 11,281 ล้านบาท   •   สมาคมประกันวินาศภัยไทย ร่วมแถลงข่าวเปิดตัว โครงการพัฒนาระบบแบ่งปันฐานข้อมูลการฉ้อฉลประกันภัย   •   กรุงศรี ร่วมมือ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ พัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ และเสริมสร้างประสบการณ์ในโลกธุรกิจ   •   ทิพยประกันภัย ร่วมกับ OR เพิ่มความสะดวก และรวดเร็ว ในการซื้อประกันภัย ผ่าน QR Code ใน พีทีที สเตชั่น   •   คณะกรรมการการเคหะแห่งชาติ เร่งบริหารงานเชิงรุก เพื่อให้การเคหะแห่งชาติขับเคลื่อนเป็นรูปธรรมอย่างเร่งด่วน   •   ธ.ก.ส. จัดกิจกรรมสงกรานต์สราญใจ ประจำปี 2567   •   การเคหะแห่งชาติ เร่งช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสารแอมโมเนียรั่วไหลในโรงงานน้ำแข็งบางละมุง   •   คปภ. ผนึกพลัง 4 สมาคม จัดเรตติ้งพฤติกรรม “ตัวแทน-นายหน้าประกันภัย” พร้อมใจเปิดโครงการพัฒนาระบบแบ่งปันฐานข้อมูลเกี่ยวกับการฉ้อฉลประกันภัย   •   FWD ประกันชีวิต นำทีมผู้บริหารตัวแทนทุกระดับ ร่วมงาน FWD Elite Summit 2024 เพื่อเปิดประสบการณ์สู่ความก้าวหน้าและต่อยอดความสำเร็จ ณ กรุงไทเป ไต้หวัน   •   ศุภาลัย พรีเมียร์ สามเสน – ราชวัตร เผยโฉมตึกจริงครั้งแรก! เดินหน้าลุยโอนฯ คอนโดฯ ใหม่พร้อมอยู่ มอบข้อเสนอสุดพิเศษ! ภายในงาน OPEN HOUSE   •   เมืองไทยประกันชีวิต ส่งมอบความสุขและรอยยิ้ม พาคณะผู้สูงอายุจากเขตห้วยขวาง และโรงเรียนผู้สูงอายุเขตดินแดง เข้าร่วมชมงาน “101 ปี พระราชวังพญาไท” THE GLORY OF SIAM   •   กรุงไทย–แอกซ่า ประกันชีวิต สืบสานประเพณีไทย “มนต์เสน่ห์ สงกรานต์สาดสุข” เสริมสิริมงคลต้อนรับปีใหม่ไทย   •   มูลนิธิเอสซีจี ชวนเยาวชนไทยหัวใจศิลป์ มาปลดปล่อยพลังสร้างสรรค์งานศิลปะ ชิงรางวัลยุวศิลปินไทย 2567   •   กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ได้รับการรับรอง มาตรฐาน ISO 18295-1: 2017 ระบบการจัดการศูนย์ติดต่อลูกค้า และเกียรติบัตรดีเด่นศูนย์รับเรื่องและแก้ไขปัญหาผู้บริโภค   •   Roddonjai จัดแคมเปญสุดคุ้ม ซื้อ “รถบ้านดูแลดี” รับดอกเบี้ยคงที่เริ่มต้น 2.59% ต่อปี การันตีเจ้าของขายเอง มั่นใจรถและผู้ขายตรงปก   •   บัตรเดบิต ttb all free จัดแคมเปญใหญ่ โคตร CODE ออนไลน์ จับมือพันธมิตรมอบโค้ดส่วนลด มากกว่า 2,000 บาทให้ใช้ทุกเดือน ตลอดปี   •   เงินติดล้อ เปิดบ้านต้อนรับ คณะผู้บริหารและทีมงานจากกระทรวงสาธารณสุข เพื่อแนะนำแนวทางการสร้างวัฒนธรรมองค์กรในแบบชาวเงินติดล้อ   •   แอกซ่า ประเทศไทย แนะคนไทยเฝ้าระวังโรคอันตรายที่มีพาหะจากยุง   •   เคทีซี เสนอดอกเบี้ยพิเศษ 19.99% ต่อปี แบ่งเบาภาระสมาชิกใหม่บัตรกดเงินสด “เคทีซี พราว”   •   ศุภาลัย ส่งบ้านเดี่ยว-แฝด เจาะตลาดเรียลดีมานด์ บนทำเล “ประชาอุทิศ 90” เชื่อมต่อกลางเมือง-โซนพระราม 2 สุดสะดวก ในราคาจับต้องได้ เริ่ม 3.89 ล้านบาท   •   “CPAC Green Solution” ชวนตะลุยอาณาจักร 3D Printing (คอนกรีต 3 มิติ) สุดว๊าว! ในงาน “สถาปนิก’67: Architect Expo 2024” ที่ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์อิมแพ็ค เมืองทองธานี เริ่ม 30 เม.ย.- 5 พ.ค. นี้   •   กรุงเทพประกันภัย ใจป้ำพาพนักงานกว่า 1,600 คน บินลัดฟ้าทัศนศึกษาประเทศญี่ปุ่น เพื่อฉลองความสำเร็จตามเป้าหมาย   •   BAM ร่วมกับสภากาชาดไทย จัดทำโครงการ HOME & HOPE ต่อเนื่องปีที่ 4 มอบเงินสร้างบ้านให้กับผู้ด้อยโอกาส จังหวัดลำพูน   •   เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ คว้า 3 รางวัล การันตีงานบริหารบุคลากรที่มุ่งเน้นความเท่าเทียม   •   OCEAN LIFE ไทยสมุทร จัด Songkran Festival 2024 สืบสานประเพณีไทย ใส่ไทยให้เท่   •   เมืองไทยประกันชีวิต มอบหมวกนิรภัย “โครงการรณรงค์ความปลอดภัยทางถนน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2567”   •   “อารีเกเตอร์” จัดกิจกรรมสัญจร พบปะสมาชิกนายหน้าประกัน ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต เพื่อสร้างการเติบโตไปพร้อมกัน

เอสซีจี – ทช. – จุฬาฯ ร่วมสานต่อนวัตกรรมการพัฒนารูปแบบวัสดุฐานลงเกาะตัวอ่อนปะการัง เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งของไทยอย่างยั่งยืน

การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและผลกระทบจากการกระทำของมนุษย์ที่รบกวนธรรมชาติ ทำให้เกิดความเสื่อมโทรมแก่ทรัพยากรทางทะเลรวมถึงความอุดมสมบูรณ์ของปะการัง ซึ่งการฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและปะการังนั้นเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน จำเป็นต้องมีองค์ความรู้ทางวิชาการอย่างลึกซึ้งและการบริหารจัดการ อย่างถูกต้องเหมาะสม จึงเกิดเป็นความร่วมมือจากองค์กรพันธมิตรที่มีเจตนารมณ์ เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลของไทยให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ดังเดิม

เอสซีจี โดยธุรกิจ Cement and Construction Solution ร่วมกับ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ร่วมกันนำเทคโนโลยี 3D Cement Printing มาพัฒนากับวัสดุ Advanced Materials ขึ้นรูปการพิมพ์แบบ 3 มิติ เป็นวัสดุฐานลงเกาะตัวอ่อนปะการัง สร้างต้นแบบที่มีความกลมกลืนเสมือนจริงใกล้เคียงธรรมชาติ เป็นอีกหนึ่งแนวทางในการฟื้นฟูทรัพยากรและระบบนิเวศทางทะเล ความร่วมมือนี้ครอบคลุมไปถึงการศึกษา วิจัย ติดตามผลตามแนวทางการฟื้นฟูระบบนิเวศแนวปะการังและทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

ในโอกาสที่มีการจัดงาน Thailand Sustainability Expo 2020 (TSX 2020) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเวทีสำคัญขององค์กรต้นแบบด้านความยั่งยืนของประเทศไทยที่มาร่วมกันขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืน ผู้จัดงานจึงได้หยิบยกเรื่อง การพัฒนารูปแบบวัสดุเพื่อใช้ในการฟื้นฟูแนวปะการังด้วยเทคโนโลยี 3D Cement Printing มาเป็นหัวข้อหนึ่งในการเสวนา โดยมี นายอุกกฤต สตภูมินทร์ ผู้อำนวยการกองอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รศ.สพ.ญ.ดร.นันทริกา ชันซื่อ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิยาลัย และ นายชนะ ภูมี Vice President ธุรกิจ Cement and Construction Solution จากเอสซีจี ร่วมเสวนาแนวทางความร่วมมือในการพัฒนารูปแบบวัสดุเพื่อใช้ในการฟื้นฟูแนวปะการัง

นายอุกกฤต สตภูมินทร์ ผู้อำนวยการกองอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า “การอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลถือเป็นภารกิจหลักของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ที่ผ่านมาเราได้ดำเนินการฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลมาอย่างต่อเนื่องผ่านการดำเนินกิจกรรม โครงการ และการกำหนดมาตรการต่างๆ ซึ่งช่วยให้ทรัพยากรทางทะเลกลับมาสมบูรณ์ แต่เนื่องจากทะเลมีพื้นที่กว้างใหญ่ จึงต้องทำงานร่วมมือกับองค์กรพันธมิตร เครือข่ายประชาชนเพื่อช่วยกันฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ โดยดำเนินการฟื้นฟูปะการังอย่างต่อเนื่อง ด้วยการพัฒนาวัสดุในรูปแบบปะการังเทียม แต่รูปแบบที่ดำเนินการยังไม่กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมธรรมชาติ และยังคงต้องปรับรูปแบบปะการังเทียมให้มีประสิทธิผล สำหรับการลงเกาะของตัวอ่อนปะการัง ทช. จึงได้ร่วมมือกับเอสซีจี และจุฬาฯ ในการจัดทำโครงการพัฒนารูปแบบฐานลงเกาะตัวอ่อนปะการัง ที่มีรูปทรงคล้ายคลึงปะการังธรรมชาติและมีความเหมาะสมกับการลงเกาะของตัวอ่อนปะการัง ซึ่งนับว่าเป็นประโยชน์อย่างมาก และจากผลการติดตามการศึกษาเบื้องต้นเป็นที่น่าพอใจ”

รศ.สพ.ญ.ดร.นันทริกา ชันซื่อ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า “ปะการังเทียมที่มีในปัจจุบันมีหลายรูปแบบ ซึ่งยังไม่มีผลการศึกษาอย่างแน่ชัดว่ารูปแบบใดเหมาะสมสามารถช่วยฟื้นฟูปะการังได้เห็นผลจริงอย่างยั่งยืน ดังนั้นคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ จึงได้พัฒนารูปแบบของวัสดุลงเกาะตัวอ่อนปะการัง ในชื่อว่า “นวัตปะการัง” ด้วยเทคโนโลยี 3D Cement Printing ขึ้นรูปวัสดุได้เสมือนจริงและกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมในท้องทะเลเป็นอย่างมาก พร้อมด้วยทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญในการศึกษาข้อมูล วิจัย ออกแบบ และสำรวจพื้นที่ หลังจากที่ได้วัสดุที่ผลิตจาก 3D Cement Printing จากเอสซีจี ทีมงานได้ทดสอบประเมินผลหลายด้าน เช่น การทดสอบการต้านกระแสน้ำ การจมตัว การทดสอบการลงเกาะของตัวอ่อนปะการัง ความคุ้นเคยของสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล รวมถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม เป็นต้น ซึ่งหลังจากทดลองนำไปวางจริง และติดตามประเมินผล พบว่าผลลัพธ์ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ นอกจากนี้ยังมองไปถึงอนาคตในการพัฒนารูปแบบปะการังเทียมเหล่านี้ให้มีประโยชน์มากขึ้น เช่น สามารถใช้เป็นที่ติดทุ่นเก็บข้อมูลคุณภาพน้ำของ ทช. ซึ่งปกติแล้วจะต้องไปติดทุ่นที่ปะการังธรรมชาติ หากทำได้ก็จะลดผลกระทบและการรบกวนปะการังธรรมชาติได้เป็นอย่างมาก”

นายชนะ ภูมี Vice President ธุรกิจ Cement and Construction Solution จากเอสซีจี กล่าวถึงแนวคิดในความร่วมมือพัฒนารูปแบบวัสดุฐานลงเกาะของตัวอ่อนปะการัง เพื่อเป็นอีกแนวทางในการฟื้นฟูทรัพยากร ทางทะเลและชายฝั่งของไทย ด้วยเทคโนโลยี 3D Cement Printing “เอสซีจี มุ่งสร้างนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิด Passion for Better Green Society อันเป็นความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจ ผ่านการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมตามแนวทาง CE – Circular Economy ซึ่งความร่วมมือระหว่างเอสซีจี ทช. และจุฬาฯ ในครั้งนี้ เอสซีจีได้นำเอาเทคโนโลยีการขึ้นรูป 3D Cement Printing ร่วมกับการพัฒนาสูตรปูนซีเมนต์ขึ้นเองที่มาจากเศษคอนกรีตจากการรื้อถอนอาคารเป็นส่วนผสมทดแทนหินปูน ด้วยวิธีการฉีดขึ้นรูปเป็นฐานลงเกาะของตัวอ่อนปะการังธรรมชาติ ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตในทะเล และมีความกลมกลืนกับธรรมชาติ ซึ่งความร่วมมือทั้ง 3 ฝ่าย ได้ร่วมกันศึกษาทดลอง ปรับปรุงพัฒนาการออกแบบการขึ้นชิ้นงาน เพื่อให้เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ประเทศไทยจะใช้เป็นต้นแบบในการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลของไทย คืนความสมบูรณ์ให้แหล่งที่อยู่อาศัยและเพาะพันธุ์สัตว์ทะเล หรือต่อยอดแนวคิดในการพัฒนาเป็นแหล่งปะการังทดแทนสำหรับการท่องเที่ยว ลดการรบกวนปะการังธรรมชาติให้มากที่สุด

การพัฒนารูปแบบวัสดุฐานลงเกาะสำหรับตัวอ่อนปะการังในครั้งนี้ นับเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือจากภาครัฐบาล สถานศึกษา และภาคเอกชน ที่มีแรงบันดาลใจร่วมกันในการมุ่งฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลไทย ด้วยการปรับใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ อย่าง 3D Cement Printing อันแสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมร่วมกัน ได้อย่างยั่งยืน ซึ่งหากองค์กรใดสนใจร่วมเป็นพันธมิตรกับเอสซีจีในการฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเล สามารถเข้าร่วมสนับสนุน ศึกษา ต่อยอด เพื่อให้ทรัพยากรทางทะเลของไทยกลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง