อินฟอร์มาร์ เผยผู้ประกอบการไทย-เทศ ใน 9 อุตสาหกรรมสำคัญไม่หวั่นปัจจัยลบ มั่นใจร่วมจัดงานโพรแพ็ค เอเชีย 2020 ชี้จับตาอุตสาหกรรมการผลิต แปรรูปอาหารและเครื่องดื่มปรับตัวใช้ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ตามเทรนด์โลกแน่
โพรแพ็ค เอเชีย งานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดของเอเชียไม่หวั่นปัจจัยลบ อินฟอร์มาร์ มาร์เก็ตส์ ผู้จัดงานฯ เผยภาครัฐ องค์กรธุรกิจ และผู้ประกอบการไทย-นานาชาติใน 9 อุตสาหกรรมชั้นนำยันปักหลักร่วมงานแน่น ทำพื้นที่จัดงานเต็มแล้วกว่า 80% ชี้จับตาการพัฒนายกระดับอุตสาหกรรมการผลิต การแปรรูปอาหาร และเครื่องดื่ม เตรียมปรับใช้ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดปัญหาด้านการขาดแคลนแรงงานตามเทรนด์โลกแน่
นางสาวรุ้งเพชร ชิตานุวัตร์ ผู้อำนวยการกลุ่มโครงการ-ภูมิภาคอาเซียน บริษัท อินฟอร์มาร์ มาร์เก็ตส์ จำกัด กล่าวถึงความมั่นใจในการจัดงานโพรแพ็ค เอเชีย 2020 ในปีนี้ว่า แม้จะมีหลายปัจจัยลบที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก ทั้งสงครามการค้าจีน-สหรัฐ การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก หรือแม้แต่การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า แต่เป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ทั้งหน่วยงานภาครัฐ องค์กรธุรกิจ และผู้ประกอบการชั้นนำของไทยและนานาชาติ ใน 9 กลุ่มอุตสาหกรรมชั้นนำ ได้แก่ การผลิตและการแปรรูป บรรจุภัณฑ์ เครื่องดื่ม เภสัชกรรม การทดลองและงานวิจัย บรรจุภัณฑ์สำเร็จรูป การใส่รหัสสินค้าการพิมพ์ข้อความและฉลาก โลจิสติกส์และคลังสินค้า และ การพิมพ์ ต่างยังตอบรับและยืนยันในการเข้าร่วมจัดงานและเยี่ยมชมงานโพรแพ็ค เอเชีย 2020 งานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมด้านกระบวนการผลิต การแปรรูป และบรรจุภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดของเอเชีย ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-20 มิถุนายน 2563 อย่างเหนียวแน่น จนทำให้พื้นที่การจัดงานขนาด 65,000 ตารางเมตร ทั้ง 9 ฮอลล์ ของ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค ถูกจองเต็มแล้วกว่า 80%
ทั้งนี้เนื่องจากผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมจำเป็นต้องพัฒนาศักยภาพอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการผลิต การแปรรูปอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งมีแนวโน้มในการนำระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์มาใช้มากขึ้น เพื่อพัฒนาทั้งประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน แก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งการเติบโตของตลาดอุปกรณ์และเครื่องจักรในการแปรรูปอาหารและเครื่องดื่มโลกในปี 2561 มีมูลค่าสูงถึง 51,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าในปี 2568 จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 87.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ มีอัตราการเติบโตประมาณ 7% โดยกลุ่มหุ่นยนต์ที่ใช้ในกระบวนการผลิตจะมีมูลค่าแตะ 3.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ มีการเติบโตประมาณ 12.7% ต่อปี
ซึ่งในการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญจะเกิดขึ้นในภูมิภาคเอเชีย จากการลงทุนของผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มรายใหญ่ที่เพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มปริมาณการผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการของตลาดและผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว มีคุณภาพมากขึ้น และมีความปลอดภัยขึ้น โดยจีนและอินเดีย เป็น 2 ใน 3 ผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ของโลก ซึ่งมีพื้นที่ขนาดใหญ่และมีประชากรมากจำเป็นต้องพัฒนาศักยภาพและความสามารถในการผลิตอาหารให้เพียงพอต่อการบริโภค
นอกจากนั้นประเทศในภูมิภาคเอเชียยังมีบทบาทสำคัญในฐานะผู้ผลิตอาหารของโลกด้วย โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มอาเซียน อาทิ อินโดนีเซีย เป็นผู้ส่งออกมะพร้าวรายใหญ่ที่สุดของโลก เวียดนาม เป็นผู้ส่งออกกาแฟเป็นอันดับ 2 ของโลก ฟิลิปปินส์ เป็นผู้ส่งออกกล้วยเป็นอันดับ 5 ของโลก ส่วนประเทศไทยนั้น เป็นผู้ส่งออกข้าวและน้ำตาลเป็นอันดับ 2 ของโลก และส่งออกไก่แช่แข็งเป็นอันดับ 6 ของโลก อย่างไรก็ตามมูลค่าของผลผลิตทางการเกษตรเหล่านี้มีมูลค่าไม่สูงนัก ทำให้ผู้ประกอบการในทุกประเทศหันมาให้ความสำคัญต่อการผลิต การแปรรูปอาหารและเครื่องดื่มมากขึ้น เพื่อเพิ่มมูลค่าให้แก่ผลผลิตและผลิตภัณฑ์ โดยการนำนวัตกรรมหุ่นยนต์และเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติมาใช้จะเป็นกุญแจดอกสำคัญที่ทำให้บรรลุวัตถุประสงค์ได้เร็วยิ่งขึ้น
ด้วยศักยภาพการเติบโตของอุตสาหกรรมในภูมิภาคเอเชีย ทำให้งานโพรแพ็ค เอเชีย เป็นงานสำคัญที่พลาดไม่ได้ของเหล่าบริษัทชั้นนำของโลก ซึ่งพร้อมจะนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีล่าสุดในด้านการผลิต การแปรรูป และบรรจุภัณฑ์มาร่วมในการจัดแสดง พร้อมพบกับผู้ประกอบการตัวจริงจากทั่วโลกที่เข้าร่วมชมงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกปี โดยคาดว่าในปีนี้จะมีผู้เข้าร่วมชมงานมากถึง 55,000 คน
สำหรับผู้ต้องการข้อมูลเกี่ยวกับการจัดงานฯ เพิ่มเติม สามารถเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ https://www.propakasia.com หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ 02-036-0500