Friday, 3 May 2024 | 10 : 50 pm

4Quarter.co

Friday, 3 May 2024 | 10 : 50 pm
สสว. ส่งภาพยนตร์โฆษณาเรื่องใหม่ “ปวดหัวซินโดรม” มุ่งสร้างการรับรู้และแนะนำบริการ E-Service เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการ SME   •   เสนาดีเวลลอปเม้นท์ ตอกย้ำความสำเร็จ การก้าวสู่องค์กร Net Zero   •   กรุงเทพประกันภัย มอบเงิน 6 ล้านบาท เพื่อสร้างอาคารโรงพยาบาลรามาธิบดี   •   ธ.ก.ส. จัดพิธีถวายพระพรชัยมงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันฉัตรมงคล 2567   •   ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ เผยมาตรฐาน “Green Living Standard” ช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนกลับคืนสู่โลก หนึ่งพันห้าร้อยล้านลิตรตลอด 3 ปี ลดผลกระทบ PM2.5 และประหยัดค่าไฟ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งกว่าให้แก่ลูกบ้าน   •   TOA โชว์วิชั่นผู้นำนวัตกรรมรักษ์โลก ชูแนวคิดความยั่งยืน “Future Tree” ในงานสถาปนิก’67 ตอกย้ำพันธกิจ Green Mission นวัตกรรมสีและวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม   •   HKSTP นำเสนอโครงการบ่มเพาะ หวังเพิ่มศักยภาพของสตาร์ทอัพทั้งในประเทศและต่างประเทศ ชี้ไทยที่มีศักยภาพสูง เล็งดึงสตาร์ทอัพไทยเข้าสู่ฮ่องกงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้   •   ออมสิน ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันฉัตรมงคล   •   เคทีซี จับมือ โรงแรม เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ มอบสิทธิพิเศษ สำหรับชุดน้ำชายามบ่ายจากผลงานศิลปะชิ้นเอกของ วินเซนต์ แวน โก๊ะ   •   FWD ประกันชีวิต จัดงาน MDRT & Agency Annual Awards 2024 ฉลองความสำเร็จในการพัฒนาศักยภาพตัวแทนอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวสู่ความเป็นเลิศในระดับสากล   •   เก็บคูปองส่วนลดสูงสุด 200 บาท/เดือน กับบัตรกรุงศรี เดบิต หรือบัตร Krungsri Boarding Card ที่ Lazada   •   THAIFA ประกาศผลรางวัลตัวแทนยอดเยี่ยมแห่งชาติ ครั้งที่ 24 ประจำปี 2567   •   MTL Click แอปพลิเคชันจากเมืองไทยประกันชีวิต คว้ารางวัลสุดยอดสินค้าและบริการแห่งปี “BUSINESS+ PRODUCT INNOVATION AWARDS 2024” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4   •   ออมสิน จับมือ กรมทรัพยากรทางทะเลฯ และองค์กรภาคี ร่วมอนุรักษ์ป่าชายเลน   •   หอการค้าไทย Kick Off โครงการรวมพลังคนไทย บริจาคโลหิต ปี 2567 ต่อยอดโครงการ 9 แสนซีซี 90 ปี หอการค้าไทย เชิญชวนสมาชิกร่วมบริจาคโลหิต เพื่อใช้สำรองยามขาดแคลน   •   วิริยะประกันภัย ปิดฉากดวลวงสวิงสนามสุดท้ายโซนภาคใต้ “Viriyah Invitational Golf Tournament 2024”   •   “แอกซ่าประกันภัย” เดินหน้ายกระดับประสบการณ์ลูกค้า จับมือ “วีซ่า”มอบประกันภัยการเดินทางต่างประเทศฟรี! รับเทรนด์ท่องเที่ยวเติบโต   •   กรุงศรี ออกมาตรการช่วยเหลือ ลดดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% ให้ลูกค้ากลุ่มเปราะบาง เป็นเวลา 6 เดือน ตอบรับแนวทางการช่วยเหลือของสมาคมธนาคารไทย   •   กรุงเทพประกันภัย มอบเครื่องกรองน้ำพกพาและน้ำดื่มสนับสนุนภารกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ   •   กรุงเทพประกันชีวิต และ ธนาคารกรุงเทพ ร่วมจัดงานขอบคุณลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจใช้บริการวางแผนความคุ้มครองและการออมยาวนานกว่า 20 ปี   •   กรุงศรี คอนซูมเมอร์ แต่งตั้งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด   •   แอปฟินนิกซ์ (FINNIX) เปิดตัวห้องเรียนออนไลน์ฟรี ‘เงินดีมีสุข รู้ทันหนี้ไม่มีทุกข์’ ตอบอินไซต์คนทำมาหากินที่ไม่มีเวลา ตั้งเป้าเสริมแกร่ง 10,000 คนทั่วไทยปีนี้   •   ฟิลลิปประกันชีวิต มอบรางวัลผู้ชนะการประกวดภาพยนตร์สั้น ภายใต้หัวข้อ “Get To Know Philliplife”   •   BAM จับมือ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมพัฒนาบุคลากร   •   SCG HOME Experience เปิด 3 โซนใหม่ ตอกย้ำทุกเทรนด์การอยู่อาศัยเอาใจคนรักบ้าน   •   ธนาคารไทยพาณิชย์ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% เพื่อช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และผู้ประกอบการ SME รายย่อย มีผลตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป   •   คิง เพาเวอร์ ส่งท้ายความฮอต ยิ่งช้อป ยิ่งได้ลด ตลอดทั้งเดือน   •   TOA เปิดนโยบาย GREEN MISSION เดินหน้าพันธกิจ พิชิต Net Zero เสริมแกร่งด้วย ฉลากลดโลกร้อน (CFR) มากที่สุดในสีทาอาคาร ตอกย้ำผู้นำตลาดสีเบอร์หนึ่ง เติบโตสู่ปีที่ 60 อย่างยั่งยืน   •   การเคหะแห่งชาติ ก่อสร้างโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 2 อาคาร D1 ก่อสร้างแล้วเสร็จ 100% คาดว่าจะส่งมอบให้ผู้อยู่อาศัยประมาณเดือนพฤษภาคม 2567   •   ทิพยประกันภัย จับมือ BEM มอบของขวัญช่วงวันแรงงาน สำหรับผู้ถือบัตร MRT/MRT PLUS และ EASY PASS รับฟรี! ประกันอุบัติเหตุ คุ้มครองสูงสุด 50,000 บาท พร้อมค่าชดเชยรายวัน 500 บาทต่อวัน

การเคหะแห่งชาติ ชี้แจงปมเอกชนร้อง DSI หาประโยชน์บ้านเอื้ออาทร 2 พันล้านบาท ยืนยันไม่เป็นความจริง ดำเนินการทุกอย่างตามขั้นตอนของกฎหมาย

กรณีสื่อมวลชนแขนงต่าง ๆ ได้นำเสนอข่าว “เอกชน” ร้องดีเอสไอ ปมการเคหะแห่งชาตินำ หจก.
เข้าหาประโยชน์โครงการบ้านเอื้ออาทร 2 พันล้านบาท ชี้จ่ายเงินไปแค่ 1 พันล้านบาท ก่อนส่งคนเข้าบุกรุก ยึดอาคารขายต่อ หวั่นประชาชนเสียหายเพราะหลงเชื่อนั้น

นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ ชี้แจงว่า ประเด็นที่ผู้ร้องเรียนยื่นหนังสือถึงดีเอสไอนั้นไม่เป็นความจริง มีการบิดเบือนข้อเท็จจริง การเคหะแห่งชาติได้ดำเนินการทุกอย่างตามขั้นตอนของกฎหมาย สืบเนื่องจากการเคหะแห่งชาติได้ทำสัญญาร่วมดำเนินกิจการฯ กับบริษัท เพียงประกายก่อสร้าง จำกัด เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2549 เพื่อจัดสร้างโครงการบ้านเอื้ออาทรจังหวัดสมุทรปราการ (เทพารักษ์ 4) ประกอบด้วย อาคารชุดพักอาศัยสูง 5 ชั้น ขนาด 33 ตารางเมตร จำนวน 5,830 หน่วย โดยต้องจัดหาที่ดินและเงินทุนเพื่อก่อสร้างอาคารให้แล้วเสร็จสมบูรณ์พร้อมเข้าอยู่ได้จนครบทุกหน่วย ค่าตอบแทน 2,448,600,000 บาท สัญญาเลขที่ กคช. (บค.4) 26/2549 ลว.2549 แบ่งการดำเนินงานออกเป็น 2 ส่วนคือ

ส่วนที่ 1 การจัดหาที่ดิน จะต้องโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินจำนวน 9 แปลง (ตั้งอยู่ที่ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เนื้อที่รวม 124-2-49.1 ไร่ ให้แก่การเคหะแห่งชาติภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ลงนามในบันทึกข้อตกลง (ฉบับ ลว.29 พฤษภาคม 2549) ตกลงราคาไร่ละ 3,200,000 บาท รวมค่าที่ดิน 398,792,800 บาท บริษัทฯ ได้ทำการโอนที่ดินให้กับการเคหะแห่งชาติ และการเคหะแห่งชาติได้ชำระเงินค่าที่ดินครบถ้วนแล้ว เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2549 จึงถือว่าการเคหะแห่งชาติเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินโดยสมบูรณ์

ส่วนที่ 2 รับจ้างก่อสร้าง แบ่งเป็น 3 ระยะ ได้แก่

  • ระยะที่ 1 และ 2 ก่อสร้างอาคารชุดพักอาศัย จำนวน 4,529 หน่วย ค่าก่อสร้าง 1,589,912,000 บาท กำหนดระยะเวลา 540 วัน นับถัดจากวันที่ผู้ร่วมดำเนินกิจการได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ให้การเคหะแห่งชาติครบทุกแปลง (นับตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2549 – วันที่ 21 พฤศจิกายน 2550) และเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2551 บริษัทฯ ได้ตกลงทำบันทึกขอลดหน่วยก่อสร้างโครงการฯ ระยะที่ 1 เหลือ 896 หน่วย และโครงการฯ ระยะที่ 2 เหลือ 986 หน่วย
  • ระยะที่ 3 ก่อสร้างอาคารชุดพักอาศัย จำนวน 1,121 หน่วย ค่าก่อสร้าง 384,295,200 บาท กำหนดระยะเวลา 480 วัน นับถัดจากวันที่ผู้ร่วมดำเนินกิจการได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ให้การเคหะแห่งชาติครบทุกแปลง (นับตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2549 – วันที่ 22 กันยายน 2550) โดยเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2551 การเคหะแห่งชาติและบริษัทฯ ได้ทำบันทึกยกเลิกหน่วยก่อสร้างทั้งหมด จำนวน 1,121 หน่วย

ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัท เพียงประกายก่อสร้าง จำกัด ได้ดำเนินการก่อสร้างโครงการฯ ระยะที่ 1 และ 2 ซึ่งได้มีการขอขยายระยะเวลาก่อสร้างออกไปอีก 5 ครั้ง รวมจำนวน 900 วัน รวมระยะเวลาก่อสร้างตามสัญญาทั้งสิ้น 1,440 วัน (นับตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2549 – วันที่ 9 พฤษภาคม 2553) เมื่อครบกำหนดสัญญาปรากฏว่า บริษัทฯ ทำงานได้เพียงร้อยละ 70.918 ของงานทั้งหมด ถือเป็นการปฏิบัติผิดสัญญา

การเคหะแห่งชาติจึงมีหนังสือบอกเลิกสัญญาวันที่ 24 มกราคม 2554 ทั้งนี้ สิ่งปลูกสร้างในโครงการฯ จึงตกเป็นกรรมสิทธิ์ของการเคหะแห่งชาติตามสัญญาก่อสร้าง เนื่องจากมีการส่งมอบงวดงานให้กับการเคหะแห่งชาติไปแล้ว จากนั้นการเคหะแห่งชาติได้ฟ้องร้องดำเนินคดีกับ บริษัท เพียงประกายก่อสร้าง จำกัด และธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ค้ำประกัน ต่อศาลปกครองกลาง เพื่อเรียกค่าเสียหายกรณีผิดสัญญา และบริษัทฯ ฟ้องร้องการเคหะแห่งชาติ เพื่อขอรับชำระค่าก่อสร้างที่การเคหะแห่งชาติยังชำระไม่หมด ตามคดีหมายเลขดำที่ 87/2556 เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2556

หลังจากนั้น ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2562 ให้บริษัท เพียงประกายก่อสร้าง จำกัด ชำระเงินค่าเสียหายจากการผิดสัญญา จำนวน 131,551,444.52 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี โดยให้ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ร่วมกันหรือแทนกันชดใช้เงินจำนวน 71,623,775 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีฯ ให้แก่การเคหะแห่งชาติ และให้การเคหะแห่งชาติชำระเงินจำนวน 28,712,333 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ซึ่งเป็นค่างานที่ทำได้จริงและยังไม่ได้เบิก

การเคหะแห่งชาติและบริษัท เพียงประกายก่อสร้าง จำกัด ใช้สิทธิอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลต่อศาลปกครองสูงสุด ส่วนธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ไม่ใช้สิทธิอุทธรณ์ โดยยินยอมชำระหนี้ตามคำพิพากษาให้แก่การเคหะแห่งชาติแล้ว จำนวน 103,684,145 บาท ปัจจุบันคดีนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด เพราะฉะนั้นการเคหะแห่งชาติสามารถปรับปรุงทรัพย์สินของตนเองได้ ไม่เกี่ยวข้องกับคดีที่กำลังฟ้องร้องกันอยู่