Tuesday, 7 May 2024 | 10 : 36 pm

4Quarter.co

Tuesday, 7 May 2024 | 10 : 36 pm
ศุภาลัย พรีโม่ รามอินทรา 117 ส่งบ้านแฝด ดีไซน์ใหม่ ฟังก์ชันจัดเต็ม ปักหมุดโลเคชั่นฮอต ตอบโจทย์ URBAN LIFESTYLE   •   “กรุงศรี ฟินโนเวต” นำกองทุนฟินโนเวนเจอร์ ฟันด์ เข้าลงทุนใน “Doppio Tech” หนุนการสร้างบุคลากรสายเทค เพื่อให้ประเทศไทยเป็นดิจิทัลฮับของภูมิภาค   •   วิริยะประกันภัย มอบพัดลมติดผนัง มูลนิธิโรงพยาบาลศรีธัญญา   •   เคทีซี ส่งมอบไฟล์หนังสือเรียน ภายใต้โครงการ “พิมพ์ & Prove” เพื่อน้องผู้พิการทางสายตา   •   ไทยประกันชีวิต จ่ายสินไหมฮอตเคลมกรณีเสียชีวิต จากเหตุการณ์พายุฤดูร้อนพัดโกดังถล่มใน จ. ขอนแก่น   •   แอกซ่า เดินหน้าเป็นผู้สนับสนุนหลักด้านประกันภัยในงาน “Motor Expo 2024” อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3   •   เมืองไทยประกันชีวิต ส่งแคมเปญ “ShieldLife ประกันชีวิต ตัวช่วยให้คุณเบาใจ ในวันที่คุณจากไป…” ตอบโจทย์การใช้ชีวิตอย่าง Worry Free พร้อมเปิดตัวโฆษณาชุดใหม่ ถ่ายทอดมุมมองการสร้างความสุขให้ตัวเอง และไม่ทิ้งภาระให้ใคร   •   อลิอันซ์ อยุธยา “Family Day 2024” พาลูกค้าท่องโลกใต้ทะเล SEA LIFE Bangkok   •   TOA สุดปัง! ทุ่ม 8.4 ล้าน เช่าเหมาลำ ขนทัพทีมช้างศึกไทย ดวลแข้งจีน สู้ศึกคัดเลือกฟุตบอลโลก – ‘มาดามแป้ง’ ขอบคุณจากใจ พร้อมเตรียมทีมให้ดีที่สุด   •   โรคหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว ภัยเงียบอันตรายที่พร้อมคร่าชีวิต   •   กรุงเทพประกันภัย ห่วงใยลูกค้าที่ประสบภัยลมพายุฤดูร้อน รับแจ้งเคลม 24 ชั่วโมง โทรสายด่วน 1620   •   คณะกรรมการ คปภ. มีมติเห็นชอบแต่งตั้งรองเลขาธิการ และผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป   •   สสว. ส่งภาพยนตร์โฆษณาเรื่องใหม่ “ปวดหัวซินโดรม” มุ่งสร้างการรับรู้และแนะนำบริการ E-Service เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการ SME   •   เสนาดีเวลลอปเม้นท์ ตอกย้ำความสำเร็จ การก้าวสู่องค์กร Net Zero   •   กรุงเทพประกันภัย มอบเงิน 6 ล้านบาท เพื่อสร้างอาคารโรงพยาบาลรามาธิบดี   •   ธ.ก.ส. จัดพิธีถวายพระพรชัยมงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันฉัตรมงคล 2567   •   ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ เผยมาตรฐาน “Green Living Standard” ช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนกลับคืนสู่โลก หนึ่งพันห้าร้อยล้านลิตรตลอด 3 ปี ลดผลกระทบ PM2.5 และประหยัดค่าไฟ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งกว่าให้แก่ลูกบ้าน   •   TOA โชว์วิชั่นผู้นำนวัตกรรมรักษ์โลก ชูแนวคิดความยั่งยืน “Future Tree” ในงานสถาปนิก’67 ตอกย้ำพันธกิจ Green Mission นวัตกรรมสีและวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม   •   HKSTP นำเสนอโครงการบ่มเพาะ หวังเพิ่มศักยภาพของสตาร์ทอัพทั้งในประเทศและต่างประเทศ ชี้ไทยที่มีศักยภาพสูง เล็งดึงสตาร์ทอัพไทยเข้าสู่ฮ่องกงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้   •   ออมสิน ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันฉัตรมงคล   •   เคทีซี จับมือ โรงแรม เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ มอบสิทธิพิเศษ สำหรับชุดน้ำชายามบ่ายจากผลงานศิลปะชิ้นเอกของ วินเซนต์ แวน โก๊ะ   •   FWD ประกันชีวิต จัดงาน MDRT & Agency Annual Awards 2024 ฉลองความสำเร็จในการพัฒนาศักยภาพตัวแทนอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวสู่ความเป็นเลิศในระดับสากล   •   เก็บคูปองส่วนลดสูงสุด 200 บาท/เดือน กับบัตรกรุงศรี เดบิต หรือบัตร Krungsri Boarding Card ที่ Lazada   •   THAIFA ประกาศผลรางวัลตัวแทนยอดเยี่ยมแห่งชาติ ครั้งที่ 24 ประจำปี 2567   •   MTL Click แอปพลิเคชันจากเมืองไทยประกันชีวิต คว้ารางวัลสุดยอดสินค้าและบริการแห่งปี “BUSINESS+ PRODUCT INNOVATION AWARDS 2024” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4   •   ออมสิน จับมือ กรมทรัพยากรทางทะเลฯ และองค์กรภาคี ร่วมอนุรักษ์ป่าชายเลน   •   หอการค้าไทย Kick Off โครงการรวมพลังคนไทย บริจาคโลหิต ปี 2567 ต่อยอดโครงการ 9 แสนซีซี 90 ปี หอการค้าไทย เชิญชวนสมาชิกร่วมบริจาคโลหิต เพื่อใช้สำรองยามขาดแคลน   •   วิริยะประกันภัย ปิดฉากดวลวงสวิงสนามสุดท้ายโซนภาคใต้ “Viriyah Invitational Golf Tournament 2024”   •   “แอกซ่าประกันภัย” เดินหน้ายกระดับประสบการณ์ลูกค้า จับมือ “วีซ่า”มอบประกันภัยการเดินทางต่างประเทศฟรี! รับเทรนด์ท่องเที่ยวเติบโต   •   กรุงศรี ออกมาตรการช่วยเหลือ ลดดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% ให้ลูกค้ากลุ่มเปราะบาง เป็นเวลา 6 เดือน ตอบรับแนวทางการช่วยเหลือของสมาคมธนาคารไทย

NTT DATA ชี้เทรนด์ Connected Car มาแรงพลิกโฉมอุตสาหกรรมยานยนต์ เปิด 2 ความท้าทายสร้างโอกาสชิงความได้เปรียบในตลาด

บริษัท เอ็นทีที เดต้า (ประเทศไทย) จำกัด ภายใต้เครือบริษัท เอ็นทีที เดต้า คอร์ปอเรชัน จำกัด ผู้นำด้านธุรกิจดิจิทัลและบริการไอทีชั้นนำระดับโลก เปิดเผยงานศึกษาพบว่าผู้ใช้รถ 47% พร้อมเปลี่ยนแบรนด์รถยนต์ หากมีเทคโนโลยีที่ดีกว่า และ Connected Car เป็นหนึ่งเทรนด์สำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์ยุคใหม่

โดยในปี 2028 แนวโน้มมูลค่าการเติบโตสูงถึง 191.83 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ จากปัจจัยด้านความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การแข่งขันในตลาด และความปลอดภัยในการขับขี่มากขึ้น เปิด 2 ความท้าทายสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ พร้อมแนะโอกาสชิงความได้เปรียบ โดย เอ็นทีที เดต้า เดินหน้าจับมือพาทเนอร์ยานยนต์ชั้นนำระดับโลกพัฒนาแอปพลิเคชันเชื่อมต่อรถยนต์ด้วยเทคโนโลยี TCU ที่มีอัลกอริทึมอัจฉริยะ ช่วยให้ผู้ผลิตรถยนต์สร้างข้อมูลเชิงลึกจากการขับขี่เพื่อการสร้างมูลค่าเพิ่ม ต่อยอดนวัตกรรมให้ธุรกิจครอบคลุมทุกมิติยานยนต์อัจฉริยะ

นายฮิโรนาริ โทมิโอกะ ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็นทีที เดต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เอ็นทีที เดต้า ได้จัดทำรายงาน “Automotive Aftersales” เกี่ยวกับบริการหลังการขายของกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลก เพื่อเชื่อมต่อกับลูกค้าผ่านช่องทางดิจิทัล จากรายงานพบว่า 47% ของผู้บริโภคมีแนวโน้มเปลี่ยนแบรนด์รถยนต์ เมื่อมีทางเลือกเทคโนโลยีที่ดีกว่า รวมถึงเทคโนโลยี Connected Car เพื่อเชื่อมต่อยานยนต์เข้ากับอุปกรณ์การสื่อสารผ่านระบบเน็ตเวิร์ค เป็นการประยุกต์ใช้งาน Internet of Things (IoT) เพื่อให้สามารถรับส่งข้อมูล และควบคุมการทำงานของยานยนต์

ทั้งนี้ Connected Car เป็นเทรนด์เทคโนโลยีเพื่อชิงความได้เปรียบในตลาดอุตสาหกรรมยานยนต์ เพราะในปัจจุบันโลกมีการเชื่อมต่อกันมากขึ้นเรื่อยๆ ผ่านอุปกรณ์การสื่อสารต่างๆ ด้วยเทคโนโลยี IoT นับเป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้ชีวิต และการทำงานพื้นฐาน ทั้งยังสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับทุกอุตสาหกรรม เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้าและสร้างมูลค่าทางธุรกิจ ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในหลายอุตสาหกรรมรวมถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ เกิดความร่วมมือและสร้างพันธมิตรกับผู้ให้บริการโซลูชันในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจของอุตสาหกรรมยานยนต์ได้อย่างต่อเนื่อง ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคในปัจจุบัน และการเปลี่ยนแปลงในยุคของ Digital Transformation จากรายงานของ Fortune Business Insights พบว่าปี 2020 ตลาด Connected Car ทั่วโลกมีมูลค่า 55.56 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และเติบโตที่ 59.70 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2021 และคาดการณ์ไว้ว่าในปี 2028 จะเติบโตเป็น 191.83 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งการเติบโตมาจากหลากหลายปัจจัย อาทิ ความต้องการเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อสร้างความโดดเด่น และจุดแข็งสำหรับการแข่งขันในตลาด รวมไปถึงปริมาณอุบัติเหตุทางถนนที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก กลุ่มผู้ผลิตรถยนต์จึงต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยมากขึ้น

อย่างไรก็ดี เอ็นทีที เดต้า มองเห็นความท้าทายในการก้าวข้ามจุดเปลี่ยนของกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ในปัจจุบันเพื่อสร้างโอกาสในการแข่งขัน ประกอบไปด้วย

  1. การสร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์รถยนต์ ไม่เพียงแค่การเป็นผู้ผลิตหรือจำหน่าย แต่ต้องคำนึงถึงการส่งมอบประสบการณ์ให้กับลูกค้าผ่านบริการเพื่อรักษาสถานะของลูกค้าให้คงอยู่
  2. การบูรณาการเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อช่วยวิเคราะห์ข้อมูล โดยไม่ได้ผ่านการปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญ อาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของข้อมูล และช่องโหว่ด้านความปลอดภัยของข้อมูล รวมถึงผลกระทบในฟังก์ชันการทำงานของตัวรถได้

เทคโนโลยี Connected Car สามารถช่วยให้ผู้ขับขี่ มีความปลอดภัย สะดวกสบายยิ่งขึ้น ในการตรวจสอบ บริหารจัดการ และควบคุมรถยนต์ผ่านแอปพลิเคชันมือถือ อาทิ สั่งการผ่านแอปพลิเคชันเพื่อล็อค/ปลดล็อคประตูรถ สตาร์ทรถ หรือเปิดแอร์ ทั้งยังเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นการเช็คสถานะของตัวรถ การแสดงตำแหน่งของรถบนแอปพลิเคชัน เมื่อรถสูญหาย ระบบแจ้งเตือนเมื่อเข้าและออกนอกพื้นที่หรือขับเร็ว (Geo fence & speed alert) ทั้งยังรวมถึงเหตุการณ์รุนแรงเมื่อเกิดอุบัติเหตุรถยนต์และถุงลมนิรภัยทำงาน ระบบจะแจ้งเตือนไปยัง Call center อัตโนมัติเพื่อประสานงานให้ความช่วยเหลือ

“เอ็นทีที เดต้า ได้เล็งเห็นถึงความท้าทายและโอกาสที่จะนำพาพาทเนอร์ทางธุรกิจก้าวข้ามความท้าทายเพื่อชิงความได้เปรียบในอุตสาหกรรม จึงได้ร่วมมือกับกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ พัฒนาแอปพลิเคชัน โดยมีอุปกรณ์ควบคุมการรับส่งข้อมูลทางไกลในรถยนต์ (Telematics Control Unit: TCU) ที่ติดตั้งในรถยนต์ เพื่อเชื่อมต่อผู้ใช้งานกับรถยนต์ผ่านแอปพลิชัน สามารถสั่งการได้จากระยะไกล ด้วยเทคโนโลยี TCU ที่มีอัลกอริทึมอัจฉริยะ ช่วยให้ผู้ผลิตรถยนต์สามารถสร้างข้อมูลเชิงลึกจากการขับขี่เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และต่อยอดด้านนวัตกรรมให้กับธุรกิจ โดย เอ็นทีที เดต้า มีบริการ Connected Car ครอบคลุมความต้องการของผู้ผลิตยานยนต์ และผู้ขับขี่ในทุกมิติ ตั้งแต่การระบุข้อกำหนดด้านการใช้งาน การวางแผนโครงการ การประเมินการปฏิบัติตามข้อกำหนด การตรวจสอบและควบคุมโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที ตลอดจนรับรองคุณภาพในการส่งมอบ นอกจากนี้ เอ็นทีที เดต้า ยังคงพัฒนาบริการอย่างต่อเนื่องเพื่อผลักดันความก้าวหน้าให้กับกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ เรายังส่งเสริมการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า (EV) อย่างเต็มที่ด้วยบริการ EV Charging Platform เพื่อเตรียมความพร้อมในด้านเทคโนโลยีและบริการ และสามารถบูรณาการเข้ากับรถยนต์ EV หรือการพัฒนาสถานีชาร์จ EV รวมถึงความต้องการในอนาคต” นายฮิโรนาริ กล่าว