Sunday, 22 December 2024 | 12 : 02 pm
spot_img
spot_img

4Quarter.co

Sunday, 22 December 2024 | 12 : 02 pm
spot_img
เคพีไอ เปิดตัวสโลแกนใหม่ “Your Trust, Our Care” สื่อสารแบรนด์ผ่านคาแรคเตอร์ “Baby CARE Boy”   •   ถอดรหัส เอสซีจี ซีเมนต์แอนด์กรีนโซลูชันส์ เติบโตสวนกระแสตลาดก่อสร้างพัฒนา “ปูนเอสซีจี คาร์บอนต่ำ” รายแรกของไทยบุกตลาดโลก   •   “แอล ดับเบิลยู เอสฯ” ระบุ 3 เมกะเทรนด์ในการพัฒนาอสังหาฯ ปี 2568   •   สมาคมประกันวินาศภัยไทย คาดการณ์ ปี ’68 ธุรกิจประกันวินาศภัยฟื้น เติบโต 1.5%-2.5% รับแรงหนุนเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยวฟื้นตัว   •   ธ.ก.ส. จับรายชื่อผู้โชคดีในแคมเปญ “แจกโชคใหญ่ใช้ BAAC Connect” ครั้งที่ 3รับของรางวัลมูลค่ารวม 3 แสนบาท   •   แรบบิท ประกันชีวิต ขนทัพผลิตภัณฑ์ร่วมงานมหกรรมการเงินกรุงเทพส่งท้ายปี ครั้งที่ 7   •   เอไอเอ ประเทศไทย ร่วมกับ เอ ไลฟ์ ส่งความอุ่นใจส่งท้ายปี ด้วยแคมเปญ “ฟรี! ประกันอุบัติเหตุ อยู่ที่ไหน ก็อุ่นใจกับเอไอเอ”มอบกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่ม วงเงินคุ้มครองสูงสุด 100,000 บาทต่อกรมธรรม์   •   กรุงเทพประกันชีวิต จัดโครงการ “ใส่ใจแบ่งปัน สานฝันเพื่อน้อง” รวมพลังทำความดีส่งท้ายปี 2567   •   เมืองไทยประกันชีวิต ผนึกกำลัง เคาน์เตอร์เซอร์วิส ส่ง “กรมธรรม์ประกันภัยปีใหม่สุขกายสุขใจ (ไมโครอินชัวรันส์)”เติมเต็มความสุขและความอุ่นใจรับเทศกาลปีใหม่   •   ไทยกรุ๊ป โฮลดิ้งส์ โชว์ต้นคริสต์มาสรักษ์โลก เติมเต็มความสุขปีใหม่ 2568   •   ทิพยประกันภัย จับมือ NT ลงนาม MOU พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ายุคดิจิทัล   •   วิริยะประกันภัย ร่วมสนับสนุน คปภ. สมทบทุนมูลนิธิรามาธิบดีฯ โครงการจัดหารถไฟฟ้าบริการประชาชน รพ.รามาฯ   •   กรุงเทพประกันภัย มอบรางวัลแห่งความภาคภูมิใจในการทำงาน   •   ธ.ก.ส. เตือนภัย! ระวังมิจฉาชีพทำหนังสือแอบอ้างเป็นธนาคาร เพื่อหลอกให้โอนเงิน   •   บัตรกดเงินสด “เคทีซี พราว” ผนึกเอไอเอสรุกขยายฐานสมาชิกใหม่ผ่าน e-Applicationเคทีซีเดินเกมรุกขยายฐานสมาชิกบัตรกดเงินสด “เคทีซี พราว” (KTC PROUD) ผ่านช่องทางของ
spot_img

“ดีป้า” สานต่อการส่งเสริมระบบเกษตรอัจฉริยะ หนุนเกษตรกรไทยประยุกต์ใช้เทคโนโลยีไอโอที บริหารจัดการน้ำ พร้อมก้าวผ่านวิกฤตภัยแล้งอย่างยั่งยืน

นอกจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจและสังคมในวงกว้าง ซึ่งต้องเฝ้าระวังกันอย่างต่อเนื่องแล้ว สภาวะภัยแล้ง ก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สร้างความเดือดร้อนให้กับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องเกษตรกรไทยทั่วประเทศ

ศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประเมินว่า ช่วงเดือนมีนาคม-เดือนพฤษภาคม 2563 สถานการณ์ภัยแล้งในประเทศไทยอาจทวีความรุนแรงขึ้น โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากปริมาณน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติลดลง เนื่องจากฝนตกน้อยกว่าค่าเฉลี่ย 12% ในปีที่ผ่านมา ประกอบกับปริมาณน้ำใช้การในอ่างเก็บน้ำมีเพียง 22% ของความจุรวม ขณะเดียวกัน เกษตรกรยังคงต้องจับตาในเรื่องของภาวะฝนทิ้งช่วง ซึ่งอาจส่งผลให้ปริมาณน้ำลดลง จึงต้องติดตามและเฝ้าระวังการใช้น้ำอย่างใกล้ชิด

ปัจจัยดังกล่าวอาจส่งผลให้พื้นที่เพาะปลูกพืชเศรษฐกิจสำคัญ อาทิ พื้นที่ปลูกไม้ผลนอกเขตชลประทานเสี่ยงขาดแคลนน้ำ 30 จังหวัด คิดเป็นพื้นที่ราว 370,000 ไร่ เช่นเดียวกับพื้นที่การเกษตรอื่น ๆ เช่น นาข้าว ที่กำลังเข้าสู่ฤดูกาลผลิตอาจได้รับผลกระทบเช่นกัน

หนึ่งในหน่วยงานภาครัฐที่ให้การช่วยเหลือและสนับสนุนสังคม ชุมชน ท้องถิ่น รวมถึงเกษตรกรในประเทศต่อยอดภูมิปัญญาด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตมาอย่างต่อเนื่องคือ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า สังกัด กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส)

ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าวว่า ที่ผ่านมา ดีป้า โดย ฝ่ายส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาชุมชน ได้นำเสนอมาตรการช่วยเหลือหรือการอุดหนุนการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลในชนบท (depa Digital Transformation Fund for Community) เพื่อช่วยให้พี่น้องเกษตรกรและกลุ่มวิสาหกิจชุมชนนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในภาคการเกษตร
“ดีป้า จะมีบทบาทในการเป็นสื่อกลางให้เกษตรกรกับผู้พัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลมาพบกัน ก่อนนำเทคโนโลยีดิจิทัลที่เหมาะสมไปประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตและขีดความสามารถในการแข่งขัน ลดต้นทุน สร้างรายได้ พร้อมรับการเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล ตามฐานวิถีชีวิตใหม่ (นิว นอร์มอล) อีกทั้งเป็นส่วนช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนอย่างยั่งยืน” หัวเรือใหญ่ ดีป้า กล่าว

โดยหนึ่งในโครงการสำคัญช่วงภัยแล้งคือ โครงการส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตเพื่อสรรพสิ่ง (ไอโอที) ควบคุมระบบให้น้ำอัตโนมัติภาคการเกษตร ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นส่วนช่วยในการบริหารจัดการน้ำภาคการเกษตรให้มีประสิทธิภาพ ขณะนี้มีโครงการจากพี่น้องเกษตรกรและกลุ่มวิสาหกิจชุมชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศได้รับการสนับสนุนและใช้งานจริงแล้วจำนวน 13 โครงการ อาทิ โครงการโรงเรือนอัจฉริยะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของมะเขือเทศเชอรี โดยวิสาหกิจชุมชนสวนกล้วยอู่ทอง ในอำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี โครงการพัฒนาระบบไอโอทีสำหรับการตรวจวัดและควบคุมการเพาะปลูกในโรงเรือน โดยกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผักสด ผลไม้แปรรูปบ้านหนองทราย อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา โครงการเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาเกษตรอินทรีย์เขาไม้แก้ว โดยวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรอินทรีย์บ้านเขาไม้แก้ว จังหวัดปราจีนบุรี และโครงการเกษตรอัจฉริยะหนุนเสริมกลุ่มครอบครัวผู้พิการ โดยมูลนิธิสายรุ้ง จังหวัดระยอง

แหลม – สุนทร คมคาย ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรอินทรีย์บ้านเขาไม้แก้ว เล่าว่า ปัจจัยในเรื่องของสภาวะอากาศส่งผลต่อผักใบ โดยเฉพาะตระกูลผักจีน ไม่ว่าจะเป็นกวางตุ้ง ผักบุ้งจีน มะระจีน ฯลฯ ซึ่งเป็นพืชหลักที่ขายได้ตลอดทั้งปี แต่เนื่องจากผักตระกูลดังกล่าวมีความบอบบาง เสียหายง่าย ต้องการน้ำในปริมาณที่เพียงพอ ไม่มากเกินไปหรือน้อยเกินไป จึงต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ดังนั้น ทางกลุ่มฯ จึงได้ส่งข้อเสนอ โครงการเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาเกษตรอินทรีย์เขาไม้แก้ว เพื่อขอรับการส่งเสริมและสนับสนุนจาก ดีป้า ในปีที่ผ่านมาก่อนผ่านการคัดเลือก ซึ่ง ดีป้า และผู้พัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลได้เข้ามาสนับสนุนระบบเกษตรอัจฉริยะในโรงเรือน เพื่อควบคุมการปลูกพืชเกษตรอินทรีย์ในระบบปิดด้วยเทคโนโลยีไอโอทีควบคุมระบบเปิด-ปิดน้ำ และจ่ายปุ๋ยอัตโนมัติ สั่งการผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ พร้อมติดตามการทำงานของระบบ และการเจริญเติบโตของพืชผักผ่านกล้องวงจรปิด

“หลังจากนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการผลิต ทำให้การดูแลแปลงเพาะปลูกมีความแม่นยำมากขึ้น มีการบริหารจัดการน้ำอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ ประหยัดเวลา ลดค่าใช้จ่ายด้านแรงงาน ผลผลิตได้ราคาดี มีการสั่งจองล่วงหน้า และมีลูกค้าที่แน่นอน” สุนทร กล่าว

อีกหนึ่งโครงการที่ได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนคือ โครงการเกษตรอัจฉริยะหนุนเสริมกลุ่มครอบครัวผู้พิการ โดยมูลนิธิสายรุ้ง จังหวัดระยอง ซึ่งมีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีไอโอทีควบคุมระบบการให้น้ำอัตโนมัติในพื้นที่แปลงปลูกผัก ทดแทนการใช้แรงงานของผู้พิการ โดยผู้พิการสามารถใช้เวลาที่เหลือจากการรดน้ำพืชผักไปทำการบุกเบิกพื้นที่ใหม่ ซึ่งนำไปสู่การสร้างรายได้เพิ่มให้แก่สมาชิก ควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้พิการ ตลอดจนเป็นศูนย์การเรียนรู้ทางการเกษตรแก่ผู้สนใจ

“สถานการณ์ภัยแล้งถือเป็นปัญหาสำคัญที่พี่น้องเกษตรกรจำเป็นต้องเผชิญ ซึ่ง ดีป้า พร้อมเป็นสื่อกลางในการสนับสนุนให้เกิดการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในมิติต่าง ๆ เพื่อพัฒนากระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ช่วยลดต้นทุนด้านแรงงานให้เหล่าเกษตรกร เพิ่มผลผลิตที่มีคุณภาพ สร้างรายได้ และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน พร้อมก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้อย่างยั่งยืนไปพร้อมกัน” ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าว

spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img