Friday, 3 May 2024 | 7 : 33 pm

4Quarter.co

Friday, 3 May 2024 | 7 : 33 pm
สสว. ส่งภาพยนตร์โฆษณาเรื่องใหม่ “ปวดหัวซินโดรม” มุ่งสร้างการรับรู้และแนะนำบริการ E-Service เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการ SME   •   เสนาดีเวลลอปเม้นท์ ตอกย้ำความสำเร็จ การก้าวสู่องค์กร Net Zero   •   กรุงเทพประกันภัย มอบเงิน 6 ล้านบาท เพื่อสร้างอาคารโรงพยาบาลรามาธิบดี   •   ธ.ก.ส. จัดพิธีถวายพระพรชัยมงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันฉัตรมงคล 2567   •   ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ เผยมาตรฐาน “Green Living Standard” ช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนกลับคืนสู่โลก หนึ่งพันห้าร้อยล้านลิตรตลอด 3 ปี ลดผลกระทบ PM2.5 และประหยัดค่าไฟ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งกว่าให้แก่ลูกบ้าน   •   TOA โชว์วิชั่นผู้นำนวัตกรรมรักษ์โลก ชูแนวคิดความยั่งยืน “Future Tree” ในงานสถาปนิก’67 ตอกย้ำพันธกิจ Green Mission นวัตกรรมสีและวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม   •   HKSTP นำเสนอโครงการบ่มเพาะ หวังเพิ่มศักยภาพของสตาร์ทอัพทั้งในประเทศและต่างประเทศ ชี้ไทยที่มีศักยภาพสูง เล็งดึงสตาร์ทอัพไทยเข้าสู่ฮ่องกงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้   •   ออมสิน ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันฉัตรมงคล   •   เคทีซี จับมือ โรงแรม เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ มอบสิทธิพิเศษ สำหรับชุดน้ำชายามบ่ายจากผลงานศิลปะชิ้นเอกของ วินเซนต์ แวน โก๊ะ   •   FWD ประกันชีวิต จัดงาน MDRT & Agency Annual Awards 2024 ฉลองความสำเร็จในการพัฒนาศักยภาพตัวแทนอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวสู่ความเป็นเลิศในระดับสากล   •   เก็บคูปองส่วนลดสูงสุด 200 บาท/เดือน กับบัตรกรุงศรี เดบิต หรือบัตร Krungsri Boarding Card ที่ Lazada   •   THAIFA ประกาศผลรางวัลตัวแทนยอดเยี่ยมแห่งชาติ ครั้งที่ 24 ประจำปี 2567   •   MTL Click แอปพลิเคชันจากเมืองไทยประกันชีวิต คว้ารางวัลสุดยอดสินค้าและบริการแห่งปี “BUSINESS+ PRODUCT INNOVATION AWARDS 2024” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4   •   ออมสิน จับมือ กรมทรัพยากรทางทะเลฯ และองค์กรภาคี ร่วมอนุรักษ์ป่าชายเลน   •   หอการค้าไทย Kick Off โครงการรวมพลังคนไทย บริจาคโลหิต ปี 2567 ต่อยอดโครงการ 9 แสนซีซี 90 ปี หอการค้าไทย เชิญชวนสมาชิกร่วมบริจาคโลหิต เพื่อใช้สำรองยามขาดแคลน   •   วิริยะประกันภัย ปิดฉากดวลวงสวิงสนามสุดท้ายโซนภาคใต้ “Viriyah Invitational Golf Tournament 2024”   •   “แอกซ่าประกันภัย” เดินหน้ายกระดับประสบการณ์ลูกค้า จับมือ “วีซ่า”มอบประกันภัยการเดินทางต่างประเทศฟรี! รับเทรนด์ท่องเที่ยวเติบโต   •   กรุงศรี ออกมาตรการช่วยเหลือ ลดดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% ให้ลูกค้ากลุ่มเปราะบาง เป็นเวลา 6 เดือน ตอบรับแนวทางการช่วยเหลือของสมาคมธนาคารไทย   •   กรุงเทพประกันภัย มอบเครื่องกรองน้ำพกพาและน้ำดื่มสนับสนุนภารกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ   •   กรุงเทพประกันชีวิต และ ธนาคารกรุงเทพ ร่วมจัดงานขอบคุณลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจใช้บริการวางแผนความคุ้มครองและการออมยาวนานกว่า 20 ปี   •   กรุงศรี คอนซูมเมอร์ แต่งตั้งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด   •   แอปฟินนิกซ์ (FINNIX) เปิดตัวห้องเรียนออนไลน์ฟรี ‘เงินดีมีสุข รู้ทันหนี้ไม่มีทุกข์’ ตอบอินไซต์คนทำมาหากินที่ไม่มีเวลา ตั้งเป้าเสริมแกร่ง 10,000 คนทั่วไทยปีนี้   •   ฟิลลิปประกันชีวิต มอบรางวัลผู้ชนะการประกวดภาพยนตร์สั้น ภายใต้หัวข้อ “Get To Know Philliplife”   •   BAM จับมือ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมพัฒนาบุคลากร   •   SCG HOME Experience เปิด 3 โซนใหม่ ตอกย้ำทุกเทรนด์การอยู่อาศัยเอาใจคนรักบ้าน   •   ธนาคารไทยพาณิชย์ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% เพื่อช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และผู้ประกอบการ SME รายย่อย มีผลตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป   •   คิง เพาเวอร์ ส่งท้ายความฮอต ยิ่งช้อป ยิ่งได้ลด ตลอดทั้งเดือน   •   TOA เปิดนโยบาย GREEN MISSION เดินหน้าพันธกิจ พิชิต Net Zero เสริมแกร่งด้วย ฉลากลดโลกร้อน (CFR) มากที่สุดในสีทาอาคาร ตอกย้ำผู้นำตลาดสีเบอร์หนึ่ง เติบโตสู่ปีที่ 60 อย่างยั่งยืน   •   การเคหะแห่งชาติ ก่อสร้างโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 2 อาคาร D1 ก่อสร้างแล้วเสร็จ 100% คาดว่าจะส่งมอบให้ผู้อยู่อาศัยประมาณเดือนพฤษภาคม 2567   •   ทิพยประกันภัย จับมือ BEM มอบของขวัญช่วงวันแรงงาน สำหรับผู้ถือบัตร MRT/MRT PLUS และ EASY PASS รับฟรี! ประกันอุบัติเหตุ คุ้มครองสูงสุด 50,000 บาท พร้อมค่าชดเชยรายวัน 500 บาทต่อวัน

DITP เผย สินค้าวัตถุดิบ มีโอกาสส่งออกตลาดตุรกีได้เพิ่มขึ้น

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ชี้ช่องทำเงินตลาดตุรกี เผยสินค้าวัตถุดิบของไทยมีโอกาสส่งออกเพิ่มขึ้น ทั้งเครื่องจักร เครื่องจักรไฟฟ้า อัญมณี พลาสติก ชิ้นส่วนยานยนต์ เคมีภัณฑ์อินทรีย์ และยางพารา หลังตุรกีต้องการนำไปใช้ผลิตเพื่อส่งออก ระบุไทยยังสามารถใช้ตุรกีเป็นฐานเจาะกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออกและเป็นฐานการค้า การลงทุนเจาะเอเชียและยุโรป     

นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า ปัจจุบันตุรกีเป็นประเทศที่เป็นฐานการผลิตสินค้าเพื่อกระจายไปทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดสหภาพยุโรป (อียู) ทำให้ตุรกีมีความต้องการนำเข้าสินค้าหมวดวัตถุดิบจากต่างประเทศเพื่อใช้ในกระบวนการผลิต โดยจากสถิติการนำเข้าสินค้าของตุรกี พบว่า มีการนำเข้าเครื่องจักร เครื่องจักรไฟฟ้า อัญมณี พลาสติก ชิ้นส่วนยานยนต์ เคมีภัณฑ์อินทรีย์ และยางพารา เพื่อนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิต จึงถือเป็นโอกาสของสินค้าในหมวดดังกล่าวของไทยที่สามารถนำเข้ามาสู่ภาคการผลิตของตุรกีได้      

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบสถิติการค้า พบว่า ในช่วงปี 2560–2562 ตุรกีมีมูลค่าการนำเข้าสินค้าจากไทยโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยสินค้านำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ เครื่องจักร ยางพารา เครื่องจักรไฟฟ้า อัญมณี ชิ้นส่วนยานยนต์ ผลิตภัณฑ์ยาง โพลีเมอร์ เส้นใยและเส้นใยประดิษฐ์ ซึ่งมากกว่าร้อยละ 70 ของสินค้าที่นำเข้าจากไทยเป็นสินค้าหมวดวัตถุดิบ เพื่อนำมาใช้ในภาคอุตสาหกรรมการผลิตเพื่อส่งออกของตุรกี

ทางด้านการส่งออก พบว่า ในช่วงปี 2560-2562 ตุรกีมีมูลค่าการส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้นมาโดยตลอด มีมูลค่าการส่งออกรวม 157,115 ล้านเหรียญสหรัฐ 167,876 ล้านเหรียญสหรัฐ และ 180,795 ล้านเหรียญสหรัฐตามลำดับ โดยสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ ยานยนต์และชิ้นส่วน เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ เครื่องจักรไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์พลาสติก เหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก ซึ่งตลาดส่งออกหลักของตุรกี คือ เยอรมนี อิตาลี สหราชอาณาจักร สหรัฐอาหรับอามิเรสต์ อิรัก สหรัฐฯ อิตาลี ฝรั่งเศส สเปน เนเธอร์แลนด์ อิสราเอล และอิหร่าน และในช่วง 5 เดือนปี 2563 (ม.ค.-พ.ค.) มีการส่งออก 61,554 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 19.74 เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้มีการปิดพรมแดน ระงับเที่ยวบิน และหยุดการผลิต โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยคาดว่าหลังตุรกีคลายล็อกดาวน์ และกลับมาผลิต ก็จะทำให้มีความต้องการสินค้าในกลุ่มวัตถุดิบเพิ่มขึ้น    

นายพูลศักดิ์ คุณอุดม ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงอังการา สาธารณรัฐตุรกี กล่าวว่า ขณะนี้ตุรกีให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบการขนส่ง มีนโยบายพัฒนาโครงการ Peace Highway ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างตุรกี บอสเนีย-เฮอร์เซโกวีนาและเซอร์เบีย เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าและการลงทุน เช่น การเกษตร การผลิต โรงแรม ท่องเที่ยว และพลังงาน จึงเป็นโอกาสของไทยที่จะใช้เส้นทางดังกล่าวขยายการค้าและการลงทุนไปยังกลุ่มประเทศมาชิกยุโรปตะวันออก      

นอกจากนี้ ตุรกียังมีเขตากรค้าเสรี 7 แห่ง ที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถนำเข้าวัตถุดิบบางชนิดได้ในอัตราภาษีที่ต่ำลงหรือไม่เสียภาษี และปัจจุบันมีการลงทุนจากสหภาพยุโรปเป็นจำนวนมาก แต่ไทยยังเข้าไปลงทุนน้อย จึงยังมีโอกาส และตุรกียังเกี่ยวเนื่องกับโครงการ Belt and Road Initiative ของจีน ทำให้ตุรกีเป็นสะพานเชื่อมระหว่าง 3 ภูมิภาค และเป็นเส้นทางโลจิสติกส์สำคัญ ซึ่งผู้ประกอบการไทยไม่ควรมองข้าม ที่สำคัญ ควรจะเตรียมความพร้อมจากการทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่หากบรรลุผล จะเป็นกลไกทำให้การค้า การลงทุนระหว่างไทย-ตุรกี เพิ่มขึ้น
           สาธารณรัฐตุรกี มีที่ตั้ง ณ ทางแพร่งของยุโรปและเอเชีย ทำให้ตุรกีมีความสำคัญทางภูมิรัฐศาสตร์อย่างยิ่ง โดยมีพื้นที่ส่วนน้อยตั้งในยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ คือ นครอิสตันบูล ประเทศตุรกีมีพรมแดนติดต่อกับ 8 ประเทศ ได้แก่ ประเทศซีเรียและอิรัก (ทางใต้) ประเทศอิหร่าน อาร์มีเนียและดินแดนส่วนแยกนาคีชีวันของอาเซอร์ไบจาน (ตะวันออก) ประเทศจอร์เจีย (ตะวันออกเฉียงเหนือ) ประเทศบัลแกเรีย (ตะวันตกเฉียงเหนือ) และประเทศกรีซ (ตะวันตก) ล้อมรอบด้วยทะเลดำอยู่ทางเหนือ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทางใต้ และทะเลอีเจียนทางตะวันตก ช่องแคบบอสฟอรัส ทะเลมาร์มะราและดาร์ดะเนลส์ (รวมกันเป็นช่องแคบตุรกี) จึงถือว่ามีภูมิศาสตร์ที่ตั้งของประเทศที่เหมาะสมต่อการค้าและการลงทุนเป็นอย่างยิ่ง  สามารถถือเป็นประตูการค้าสู่ประเทศต่างๆ ในสหภาพยุโรปและเอเชีย
           ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือสายตรงการค้าระหว่างประเทศ โทร 1169