
ประเทศไทยกำลังปรับเกมครั้งใหญ่ในระบบทุนวิจัย จากที่เคยเน้นการ “ให้ทุน” ไปสู่การ “ร่วมลงทุน” (Co-Investment) อย่างมียุทธศาสตร์ เพื่อสร้างระบบนิเวศของวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (ววน.) ที่เข้มแข็ง และตอบโจทย์เศรษฐกิจ สังคม และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศในระยะยาว

เมื่อการลงทุนด้านวิจัยไม่ใช่เพียงงบประมาณ แต่คือยุทธศาสตร์ของชาติ งาน TSRI Policy Advocacy Series #4 ที่จัดโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ได้จุดประเด็นสำคัญในหัวข้อ “สานพลังการลงทุนเชิงกลยุทธ์ ด้วยกองทุน ววน.” สิ่งที่น่าสนใจไม่ใช่แค่การประกาศอัดงบกว่า 19,000 ล้านบาท เพื่อผลักดันการวิจัยและนวัตกรรม แต่คือการตั้งคำถามว่า “เงินจำนวนนี้จะถูกแปลงเป็นความสามารถในการแข่งขันของประเทศได้จริงหรือไม่?”
เวทีนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงการประชุมเชิงนโยบาย แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการทบทวน บทบาทกองทุน ววน. ในฐานะเครื่องมือยุทธศาสตร์ ที่ต้องเชื่อมโยงระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา เพื่อสร้างระบบนิเวศการลงทุนด้านความรู้ที่ตอบโจทย์จริง ไม่ซ้ำซ้อน และยั่งยืน เป้าหมายที่ตั้งไว้คือการยกระดับไทยสู่ประเทศรายได้สูงภายในปี 2580 ซึ่งหากกลไกการลงทุนครั้งนี้ไม่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ อาจกลายเป็นเพียงงบประมาณที่สูญเปล่าไม่ได้สร้างการเปลี่ยนแปลง
เจาะลึกแนวคิดจาก ศาสตราจารย์ ดร.สมปอง คล้ายหนองสรวง ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) และ CEO ของ กองทุน ววน. ที่ชี้ชัดว่า การเปลี่ยนผ่านนี้คือหัวใจหลักของยุทธศาสตร์พัฒนาประเทศสู่สังคมฐานนวัตกรรม

ศาสตราจารย์ ดร.สมปอง คล้ายหนองสรวง ผู้อำนวยการ สกสว. และ CEO กองทุน ววน. เปิดเผยว่า “เวทีนี้คือการประกาศจุดเปลี่ยนของระบบทุนวิจัยไทย เราจะไม่เดินคนเดียวอีกต่อไป แต่จะชวนภาคเอกชนมาร่วมออกแบบ ร่วมลงทุน และร่วมใช้ประโยชน์จากผลงานของ ววน. อย่างแท้จริง”
“เราไม่ได้แค่ให้ทุน แต่จะช่วยให้ทุกขั้นตอนของการลงทุนร่วมมีคุณภาพและผลลัพธ์ชัดเจน”
สองแรงบวก หนุนประเทศเดินหน้า: การขับเคลื่อนด้วยภาครัฐเพียงลำพังมักได้แค่ “โจทย์กลาง” ซึ่งอาจไม่ครอบคลุมความต้องการของตลาดหรือภาคอุตสาหกรรม ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมี “แรงเสริม” จากภาคเอกชนเข้ามาช่วยกำหนดโจทย์ ร่วมพัฒนาทุนมนุษย์ และร่วมใช้งานจากผลงานวิจัยในภาคปฏิบัติจริง
ตัวอย่างชัดเจนคือความร่วมมือระหว่างกองทุน ววน. กับ บริษัท Infineon ที่ร่วมกันพัฒนาบุคลากรด้านเซมิคอนดักเตอร์ ตั้งเป้าผลิตวิศวกรกว่า 3,000 คนต่อปี โดยใช้อุตสาหกรรมเป็นฐานฝึกงาน ทั้งในไทย สิงคโปร์ และเยอรมนี ซึ่งแสดงให้เห็นว่า “การลงทุนร่วม” ไม่ได้หมายถึงแค่เงินทุน แต่หมายถึงการ “Co-Operation” หรือความร่วมมือทั้งระบบ ตั้งแต่การสอน การฝึกงาน จนถึงการใช้งานจริง
3 มาตรการหลักขับเคลื่อนการร่วมทุน: Co-Funding, Open Data, Coaching เพื่อเร่งผลักดันความร่วมมือแบบบูรณาการ: 1) Co-Funding ที่ยืดหยุ่น: ภาคเอกชนสามารถร่วมลงทุนเพียง 20% (In Cash) ส่วนที่เหลือรัฐสนับสนุน พร้อมทั้งเปิดให้ร่วมพัฒนาคนอย่างใกล้ชิด เช่น ส่งคนมาเป็นอาจารย์พิเศษ สอนร่วม หรือให้สถานประกอบการเป็นสถานที่ฝึกงาน 2) เปิดคลังข้อมูลวิจัย (Open Data): กองทุน ววน. มีผลงานวิจัยคุณภาพกว่า 7,000 โครงการต่อปี และพร้อมเปิดเผยข้อมูลเพื่อให้เอกชนสามารถนำไปต่อยอด พัฒนาเป็นนวัตกรรมใช้งานได้ทันที 3) ระบบโค้ชชิ่งและติดตามผล: ผู้ร่วมลงทุนจะได้รับการสนับสนุนจากทีมโค้ชและผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้โครงการที่ร่วมดำเนินงานสามารถออกผลจริง
ศ.ดร.สมปอง ผอ. สกสว. ย้ำเป้าใหญ่ 2% ของ GDP ภายในปี 2580 แม้ปัจจุบันไทยยังลงทุนด้านวิจัยเพียง 0.94% ของ GDP แต่รัฐบาลและกองทุน ววน. ได้ตั้งเป้าชัดเจนว่า ภายในปี 2580 ประเทศไทยจะต้องลงทุนด้าน R&D ให้ได้ถึง 2% ของ GDP เทียบเท่ากับประเทศพัฒนาแล้วอย่างเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น หรือสหรัฐฯ
“นี่คือเป้าระดับประเทศ ไม่ใช่ของกองทุนอย่างเดียว เพราะถ้าเราทำได้ ไทยจะกลายเป็นประเทศรายได้สูงอย่างแท้จริง”
จาก 4C สู่อนาคตที่พร้อมเปลี่ยนแปลง: กลไกการทำงานหลักของกองทุน ววน. ปัจจุบันอิงตามแนวคิด 4C: Co-Funding, Co-Design, Co-Investment และ Co-Operation ซึ่ง ศ.ดร.สมปอง มองว่ายังมีช่องว่างในการพัฒนา และต้องปรับไดนามิกให้ตอบโจทย์ยุคใหม่ยิ่งขึ้นในอนาคต
“เราต้องการเห็นระบบ ววน. ที่ไม่แค่ผลิตความรู้ แต่ผลิตผลลัพธ์จริง และสร้างคุณภาพชีวิตใหม่ให้คนไทย”
จากทุน…สู่พลังขับเคลื่อนประเทศ: การปรับบทบาทจาก “ผู้ให้ทุน” สู่ “นักลงทุนยุทธศาสตร์” คือก้าวสำคัญที่กำหนดทิศทางอนาคตของประเทศ ยุทธศาสตร์ใหม่ของ สกสว. ไม่เพียงสร้างระบบการสนับสนุนงานวิจัย แต่ยกระดับสู่การสร้างนิเวศการลงทุนร่วมที่ดึงภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษา เข้ามากำหนดเกมการพัฒนาประเทศไปพร้อมกัน ศ.ดร.สมปอง คล้ายหนองสรวง ชี้ชัดว่า นี่คือการใช้ทุนเป็นเครื่องมือสร้างความสามารถในการแข่งขัน แปลงองค์ความรู้สู่เศรษฐกิจฐานนวัตกรรม และวางรากฐานให้ไทยสามารถก้าวสู่ประเทศรายได้สูงภายในปี 2580
■ ผู้เขียน: จิรารัฏฐ์ บูรพารัศมิ์ บรรณาธิการบริหาร


















