Friday, 26 April 2024 | 3 : 36 pm

4Quarter.co

Friday, 26 April 2024 | 3 : 36 pm
ออมสิน ประกาศลดดอกเบี้ย MRR ลง 0.25% เพื่อช่วยเหลือลูกค้ารายย่อยทุกกลุ่ม คงเหลืออัตราดอกเบี้ย MRR (หลังปรับลด) = 6.95%   •   Caring is Giving “Protect Your Car” ประกันภัยไทยวิวัฒน์ ใส่ใจคุณ พร้อมเคียงข้างทุกการเดินทาง ชวนลดความเสี่ยง ปกป้องรถที่คุณรักอย่างยั่งยืน   •   เคทีซี เผยยอดใช้จ่ายไอเทมคลายร้อนที่ KTC U SHOP พุ่งกว่า 120% เปิดช่องทางช้อปใหม่ผ่านแอป KTC Moblie สะดวก ปลอดภัย พร้อมรับโปรสุดคุ้ม   •   กสิกรไทย ร่วมฉลองความสำเร็จ KCBL รุ่น 1   •   กคช. ระดมผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ มุ่งการพัฒนาควบคู่ 4 มิติ เศรษฐกิจ สังคม สุขภาพ และสิ่งแวดล้อม เพื่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดีในช่วงบั้นปลาย   •   ถอดบทวิเคราะห์ เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ เผยมุมมองขยายพอร์ต สู่ 4 จุดยุทธศาสตร์สำคัญของกรุงเทพฯ “กาญจนาภิเษก – พุทธมณฑล – พัฒนาการ – รามคำแหง”   •   สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ขานรับนโยบายรัฐบาล ประกาศลดดอกเบี้ยลง 0.25% เพื่อช่วยเหลือลูกค้ารายย่อยและกลุ่มเปราะบาง   •   ผู้บริหารไทยประกันชีวิต รับรางวัล TOP CEO Thailand 2023   •   วิริยะประกันภัย รวมพลังจิตอาสาสร้างโป่งเทียม แหล่งอาหารช้างป่า ผืนป่าภาคตะวันออก   •   กรุงศรี เดินหน้ากลยุทธ์กลุ่มลูกค้าธุรกิจญี่ปุ่นและบรรษัทข้ามชาติ รุกสร้างระบบนิเวศเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม พร้อมเชื่อมต่อโอกาสลงทุนในอาเซียน   •   เงินติดล้อ เปิดบ้านต้อนรับ นักศึกษาปริญญาโท บริหารธุรกิจ (MBA) คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์   •   เมืองไทยประกันชีวิต ร่วมกับ มูลนิธิเมืองไทยยิ้ม มอบเงินสนับสนุน “มูลนิธิโรงพยาบาลตำรวจในพระบรมราชินูปถัมภ์”   •   พรูเด็นเชียล ประเทศไทย คว้ารางวัลสุดยอดนายจ้างระดับโลก “Global Best Employer Brand Awards 2024”   •   เปิดบ้านหรู 3 ชั้น พร้อมชม Club House สุดหรู ที่ ศุภาลัย เอเลแกนซ์ พหลโยธิน 50   •   กสิกรไทย ปรับโครงสร้างคณะกรรมการ ลดจำนวนกรรมการเป็น 15 คนจาก 18 คน เพิ่มสัดส่วนกรรมการอิสระเกินกว่ากึ่งหนึ่ง ตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีสอดคล้องมาตรฐานสากล   •   เอสซีจี แถลงผลประกอบการ ไตรมาส 1 ปี 2567 ดีขึ้นจากไตรมาสก่อน เดินหน้านวัตกรรมกรีนต่อเนื่อง เพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาด รุกธุรกิจในตลาดเติบโตสูง   •   การเคหะแห่งชาติ ร่วมรับรางวัล “รัฐวิสาหกิจดีเด่นด้านการส่งเสริมและพัฒนาที่อยู่อาศัยอย่างยั่งยืน” ภายในงาน “มอบรางวัล SIAMRATH AWARDS 2024”   •   ทิพยประกันภัย ปลุกกระแสประกันภัยความรับผิดทางวิชาชีพแพทย์ สร้างความอุ่นใจให้แพทย์ มอบความคุ้มครองสูงสุดถึง 6 ล้านบาท   •   องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี จับมือ เคทีซี เดินหน้าขยายฐานนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม พร้อมเปิดตัวแคมเปญ “Korea Everything” ทุกสิ่งเป็นจริงที่เกาหลี   •   OCEAN LIFE ไทยสมุทร จัดกิจกรรม “SMART HEALTHY CHALLENGE 2024” ดูแลสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก นำทุกคนก้าวสู่โลกใหม่เพื่อชีวิตและสุขภาพที่ดี   •   “สำนักงาน คปภ. – ภาคธุรกิจประกันภัย” เตรียมความพร้อมรองรับมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 17 เรื่อง สัญญาประกันภัย (TFRS 17)   •   สมัครบัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ วีซ่า รูดช้อปรับคุ้ม! รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 5%   •   เอไอเอ ประเทศไทย สนับสนุนกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุฟรี แก่เยาวชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ร่วมโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2   •   ทิพยประกันภัย คว้าสุดยอด 2 รางวัลแห่งความภาคภูมิใจ รางวัลผู้บริหารองค์กรดีเด่นแห่งปี และรางวัลบริษัทประกันภัยที่ส่งเสริมความยั่งยืนด้านการพัฒนาสังคมยอดเยี่ยม   •   ศุภาลัย ผนึก ทีโอเอ ปั้นนวัตกรรมที่อยู่อาศัยสีเขียว ผุดโปรเจกต์ยักษ์ ‘ฝ้ายิปซัม & สีรักษ์โลก’ เดินหน้าสู่องค์กร Zero Waste อย่างยั่งยืน   •   ออมสิน รับรางวัลองค์กรแห่งความยั่งยืนเพื่อสังคม   •   ธ.ก.ส. จับรางวัลชำระดีมีโชค ครั้งที่ 2 มอบโชคอีกกว่า 208 ล้านบาท ส่งเสริมแนวทางลดภาระหนี้อย่างยั่งยืน   •   ทีทีบี เสริมศักยภาพเอสเอ็มอี ด้วยฟีเจอร์ใหม่ “analytic report” ภายใต้แอปพลิเคชันจัดการร้านค้า ttb smart shop วิเคราะห์ข้อมูลการขายเชิงลึก ครบทุกมิติ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย   •   เมืองไทยประกันชีวิต รับรางวัลสุดยอดองค์กรธุรกิจไทย “THAILAND TOP COMPANY AWARDS 2024” ต่อเนื่องปีที่ 6   •   “อารีเกเตอร์” จับมือ มูลนิธิเมาไม่ขับ รณรงค์สงกรานต์ปลอดภัย 2567 ชวนสมาชิกส่งมอบประกันอุบัติเหตุให้ประชาชน

DITP โชว์ผลเจรจาการค้าออนไลน์สินค้าอาหารฮาลาลสู่ตลาดอาเซียน ทำยอดขายกว่า 10 ล้านบาท

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เผยผลการจัดกิจกรรมเจรจาการค้าออนไลน์ ผลักดันสินค้าอาหารฮาลาลของไทยสู่ภูมิภาคอาเซียน เกิดการเจรจาจับคู่ธุรกิจรวม 83 คู่ มีมูลค่าซื้อขายภายใน 1 ปี กว่า 10 ล้านบาท แถมมีโอกาสขายได้อีก ระบุยังช่วยให้ผู้นำเข้ารับรู้ศักยภาพสินค้าไทย ผู้ประกอบการไทยได้เรียนรู้พฤติกรรมผู้บริโภค มั่นใจมีโอกาสส่งออกเพิ่มในอนาคต

นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการจัดกิจกรรมจับคู่เจรจาการค้าสินค้าอาหารฮาลาลออนไลน์ ระหว่างวันที่ 22–25 กุมภาพันธ์ 2564 เพื่อผลักดันการส่งออกอาหารฮาลาลไทย ตามกลยุทธ์อาหารไทย อาหารโลก เพื่อมุ่งเน้นการส่งออกอาหารฮาลาล ที่กำลังเป็นเทรนด์สำคัญของโลก ตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์)โดยมุ่งเน้นการเจาะเข้าสู่ตลาดในภูมิภาคอาเซียน มีผู้ประกอบการจำนวน 36 ราย เข้าร่วมการเจรจาธุรกิจออนไลน์กับผู้นำเข้าที่มีศักยภาพ และผ่านการคัดเลือกจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) ในภูมิภาคอาเซียนจำนวน 21 รายจาก 9 ประเทศ โดยเกิดการเจรจาจับคู่ธุรกิจรวม 83 คู่เจรจา มีผลการเจรจาการค้าคาดการณ์ภายใน 1 ปี จากผู้นำเข้า 2 ราย คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 10.11 ล้านบาท สำหรับผู้นำรายอื่นอยู่ในระหว่างให้ผู้ประกอบการไทยจัดส่งตัวอย่างสินค้าไปให้พิจารณา รวมถึงส่งข้อมูลสินค้าและราคาสินค้า เพื่อใช้ในการพิจารณาและศึกษาสินค้าต่อตลาดผู้บริโภค ก่อนตัดสินใจเลือกนำเข้าสินค้าที่เหมาะสมกับตลาดต่อไป

ส่วนสินค้าที่ได้รับความสนใจ ได้แก่ ข้าวออร์แกนิก ผลิตภัณฑ์จากข้าว แป้งข้าวเหนียว แป้งข้าวเจ้า มะพร้าวขูดอบแห้ง ไข่มุกมันสำปะหลัง ถั่ว เครื่องปรุงรส ซอสปรุงรส อาหารสำเร็จรูปพร้อมปรุง อาหารทะเลแปรรูป มันฝรั่งทอดกรอบ มะม่วงหิมพานต์เผา เเคบปลาหมึก ขนมขบเคี้ยว ผลไม้แห้ง ชาไทยชนิดปรุงสำเร็จ และเครื่องดื่มที่มีระดับน้ำตาลต่ำกว่า 5 กรัม/100 มิลลิลิตร

“การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ พบว่า ผู้นำเข้าได้รับรู้ถึงศักยภาพของสินค้าอาหารฮาลาลของไทย และรับรู้ว่าไทยมีความได้เปรียบทางด้านโลจิสติกส์ รวมถึงสินค้าอาหารฮาลาลของไทยเป็นที่ยอมรับในด้านความน่าเชื่อถือ คุณภาพ และความหลากหลายที่สามารถตอบสนองกับรสนิยมและความต้องการของผู้บริโภคในแถบภูมิภาคอาเซียนได้เป็นอย่างดี ขณะที่ผู้ประกอบการไทย ได้เรียนรู้พฤติกรรมผู้บริโภคและความต้องการสินค้าอาหารฮาลาลของประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน ทำให้มีข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี” นายสมเด็จกล่าว

ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าว สำนักส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม (สกอ.) ได้ร่วมกับสำนักตลาดพาณิชย์ดิจิทัล (สตพ.) จัดขึ้น เนื่องจากเห็นว่าตลาดอาหารฮาลาล (Halal Food) เป็นตลาดที่มีศักยภาพขนาดใหญ่ที่เป็นที่จับตามองของผู้ประกอบการไทยและผู้ประกอบการทั่วโลก อันเนื่องจากจำนวนประชากรมุสลิมที่มีจำนวนมากและเพิ่มมากขึ้น โดยคาดการณ์ว่าในปี 2573 จำนวนประชากรมุสลิมจะกลายเป็นประชากรกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดของโลก ทั้งยังเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง รวมถึงแนวโน้มความนิยมอาหารฮาลาลที่มีมากขึ้นในกลุ่มผู้บริโภคทั่วไป จากกระแสการบริโภคอาหารปลอดภัย เนื่องจากอาหารฮาลาลมีระบบการผลิตที่เข้มงวดในความสะอาดตามหลักความเชื่อทางศาสนา และสามารถตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มาได้ จึงทำให้ผู้ประกอบการทั่วโลกและผู้ประกอบการไทยต้องปรับตัว เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดนี้ซึ่งอาจมีมูลค่าถึง 1,972 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 59,160 พันล้านบาท)

ในอีก 3 ปีข้างหน้า (ปี 2567) หรือคิดเป็นอัตราเฉลี่ยขยายตัวเพิ่มขึ้น (CAGR) ถึงปีละร้อยละ 6.3 เลยทีเดียว
ในปี 2563 ที่ผ่านมา มูลค่าการส่งออกสินค้าอาหารและเครื่องดื่มฮาลาลของไทยมีมูลค่า 118,531.66 ล้านบาท และตั้งเป้าว่าในปี 2564 จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 หรือ 122,087.61 ล้านบาท และคาดการณ์ว่าจะยังมีแนวโน้มที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นอีกในปีถัดๆ ไป ซึ่งนับเป็นกลุ่มสินค้าที่จะสามารถเติบโตได้อย่างมีศักยภาพและเป็นแรงขับเคลื่อนที่แข็งแกร่งของเศรษฐกิจไทยที่สำคัญอีกกลุ่มหนึ่ง ส่วนการส่งออกสินค้าอาหารฮาลาลไปยังอาเซียนในปี 2563
มีมูลค่า 54,544.56 ล้านบาท ซึ่งสินค้าอาหารฮาลาลของไทยที่เป็นที่นิยม ประกอบด้วย น้ำตาลทราย ผลิตภัณฑ์
มันสำปะหลัง ข้าว ผลไม้สด แช่แข็ง และแห้ง ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูปอื่นๆ เป็นต้น ซึ่งตลาดกลุ่มนี้ยังมีช่องว่างและโอกาสอีกมากที่ผู้ประกอบการไทยสามารถเข้าชิงส่วนแบ่งทางการตลาดสินค้าอาหารฮาลาลจากประเทศคู่แข่ง