งานเลี้ยงขอบคุณสื่อมวลชน “MDRT THAILAND THANK PRESS PARTY” ณ โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สุรวงศ์ เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ที่ผ่านมา สะท้อนบทบาทที่มากกว่าการพบปะสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสมาคม MDRT Thailand กับนักข่าว หากแต่เป็นเวทีส่งสัญญาณทิศทางและยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนองค์กรในระยะต่อไปผ่านถ้อยแถลงของ รัฐพร สังคนนท์ ประธาน Million Dollar Round Table (MDRT) Thailand ที่ชี้ให้เห็นถึงแนวคิดเชิงรุกขององค์กรวิชาชีพที่ทรงอิทธิพลที่สุดในอุตสาหกรรมประกันชีวิตไทยอย่างมีนัยสำคัญ

ความท้าทายของตัวเลข “10,000 ราย”
ปัจจุบันประเทศไทยมีสมาชิก MDRT (Million Dollar Round Table) จำนวน 5,458 คน รั้งอันดับ 7 ของโลก ซึ่งถือว่า “ไม่ธรรมดา” แต่การประกาศตั้งเป้าหมายสมาชิกที่ 10,000 คน ภายใน 3 ปี เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี MDRT โลกนั้น นับเป็นโจทย์ที่ “ไม่ธรรมดายิ่งกว่า”
คำถามคือท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน MDRT Thailand จะใช้อะไรเป็นแรงจูงใจ? คำตอบชี้ชัดอยู่ในนโยบายหลักที่มุ่งเน้นการสร้าง “แรงบันดาลใจ” ผ่านงานสัมมนาใหญ่อย่าง MDRT Day และการดึงความรู้ระดับโลกจากมหาวิทยาลัย Harvard มาใช้ในโครงการ CFL ซึ่งสะท้อนว่า MDRT กำลังเร่งยกระดับภาพลักษณ์จาก “นักขาย” ให้กลายเป็น “ที่ปรึกษาการเงินระดับสากล” เพื่อดึงดูดคนรุ่นใหม่เข้าสู่อาชีพ

กางโรดแมปปี 2026: ปูทางสู่กองทัพ 10,000 สมาชิก เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย 10,000 สมาชิก ภายใน 3 ปี และเพื่อฉลองครบรอบ 100 ปี MDRT โลก ในปี 2027 สมาคมฯ ได้วางเส้นทางกิจกรรมตลอดปีไว้อย่างน่าสนใจ:
มกราคม: คิกออฟแคมเปญ MDRT Be Good and Great สัญจรปล่อยเต่าทะเลและปลูกต้นกล้า ณ กองทัพเรือ สัตหีบ เพื่อประกาศภาพลักษณ์ “ตัวแทนประกันชีวิตคือคนดีของสังคม”
กุมภาพันธ์: งาน MDRT First ปลุกพลังสร้างแรงบันดาลใจต้นปี ณ โรงละครอักษรา คิงพาวเวอร์
พฤษภาคม/สิงหาคม/พฤศจิกายน: MDRT Tips Talk สัมมนาเจาะลึกเทคนิคการทำงานแบบ Exclusive สำหรับสมาชิก เพื่อส่งเสริมการเป็นสมาชิกต่อเนื่องจนถึงระดับ Life Member (เป็นสมาชิกครบ 10 ปี)
มิถุนายน: เดินทางร่วมงาน Annual Meeting ณ อนาไฮม์ แคลิฟอร์เนีย เพื่อเชื่อมต่อมาตรฐานโลก
กรกฎาคม: MDRT Day มหกรรมวิชาการจำลองบรรยากาศระดับโลกสู่เมืองไทย คาดผู้เข้าร่วมกว่า 2,000 ท่าน

“คนเก่ง” ที่ต้องเป็น “คนดี”: กลยุทธ์แก้ Pain Point ของอุตสาหกรรมฯ จะเห็นได้ว่าหัวใจสำคัญของแผนปี 2568-2569 คือแคมเปญ “MDRT be Good and Great” ซึ่งที่ผ่านมา อุตสาหกรรมประกันชีวิตมักถูกตั้งคำถามเรื่องจรรยาบรรณและการเน้นยอดขายมากกว่าผลประโยชน์ของลูกค้า การที่ MDRT Thailand ชูธงเรื่อง “คนดี” (จรรยาบรรณ/CSR) ควบคู่ไปกับ “คนเก่ง” (ทักษะอาชีพ) คือการพยายามสร้างเกราะคุ้มกันและสร้างความเชื่อมั่นให้กับวิชาชีพ การจัดกิจกรรมอย่าง “SAVE THE SEA” หรือการร่วมกับสภากาชาดไทย จึงไม่ใช่แค่กิจกรรม CSR ทั่วไป แต่เป็นการสร้าง Social Proof ว่าสมาชิก MDRT คือกลุ่มคนคุณภาพที่สังคมยอมรับได้ ไม่ใช่เพียงแค่คนที่ทำยอดขายได้ในระดับท็อปเท่านั้น
ความยั่งยืน (Sustainability) คือกุญแจสำคัญ อีกหนึ่งประเด็นที่น่าจับตาคือการเน้นเรื่อง Retention หรือการรักษาการเป็นสมาชิกอย่างต่อเนื่อง (Life Member) สมาคมฯ ทราบดีว่าการเข้ามาเป็น MDRT เพียงปีเดียวนั้นยาก แต่การรักษามาตรฐานให้ได้ 10 ปี ขึ้นไปนั้นยากยิ่งกว่า การเปิดเวที MDRT Tips Talk จึงเป็นกุศโลบายในการสร้าง Community ที่เข้มแข็ง ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้ตัวเลข 10,000 คน นั้นยั่งยืน ไม่ใช่แค่ตัวเลขที่พุ่งขึ้นเพียงชั่วคราว ดังนั้นโจทย์ใหญ่ที่สมาคมฯ ต้องเผชิญคือการทำให้ “มาตรฐาน MDRT” เข้าถึงตัวแทนในระดับภูมิภาคให้มากขึ้น ไม่ใช่กระจุกตัวอยู่เพียงแค่ในกรุงเทพฯ หรือบริษัทใหญ่บางบริษัท ซึ่งหาก MDRT Thailand สามารถกระจายความรู้และทัศนคติแบบ “Professionalism” ไปได้ทั่วประเทศ เป้าหมายอันดับที่สูงขึ้นในระดับโลก …อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม

อย่างไรก็ตาม MDRT Thailand กำลังก้าวสู่บทใหม่ของการเติบโตอย่างมีวิสัยทัศน์ จากการวัดความสำเร็จด้วยผลงาน สู่การสร้างคุณค่าของคนและสังคม หากเป้าหมายการพัฒนาตัวแทน 10,000 คน สามารถหล่อหลอมให้สมาชิกฯ เป็นทั้งผู้เชี่ยวชาญและผู้มีจิตสาธารณะได้สำเร็จ สังคมไทยจะมีที่ปรึกษาทางการเงินที่เป็น “ที่พึ่ง” ได้อย่างแท้จริง และในวาระครบรอบ 100 ปี ที่กำลังจะมาถึงในปี 2027 อุตสาหกรรมประกันชีวิตไทยจะสามารถยืนหยัดอยู่บนเวทีโลกได้อย่างน่าเชื่อถือและสง่างาม
■ ผู้เขียน: จิรารัฏฐ์ บูรพารัศมิ์ บรรณาธิการบริหาร


















